บีบีซีไทย - BBC Thai

ชาวโคลอมเบียลงประชามติคว่ำข้อตกลงสันติภาพ-กระทบแผนยุติสงคราม

ประชาชนชาวโคลอมเบียลงประชามติว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลโคลอมเบียและกลุ่มติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (ฟาร์ก) เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) โดยผลนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าผู้ใช้สิทธิ์มากกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงสันติภาพดังกล่าว และอาจส่งผลให้รัฐบาลต้องกลับสู่กระบวนการเจรจาครั้งใหม่กับกลุ่มฟาร์ก

ผลการนับคะแนนกว่า 99% ระบุว่าชาวโคลอมเบียราว 13 ล้านคนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ แต่ถือว่าน้อยกว่า 40% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติทั้งหมด โดย 50.24% ของผู้ใช้สิทธิ์คัดค้านข้อตกลงสันติภาพดังกล่าว ส่วนผู้ที่สนับสนุนคิดเป็น 49.8% โดยผู้ออกเสียงคัดค้านข้อตกลงสันติภาพจำนวนมากตะโกนโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อทราบผลนับคะแนนเบื้องต้น ขณะที่ผู้ออกเสียงสนับสนุนบางรายถึงกับร้องไห้ออกมา

การลงประชามติคัดค้านข้อตกลงสันติภาพเป็นเรื่องผิดความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ซึ่งลงนามรับรองข้อตกลงสันติภาพร่วมกับนายทิโมเลออน จิเมเนซ หรือ “ทิโมเชงโก” ผู้นำกลุ่มฟาร์ก ได้เตือนไว้แล้วว่ารัฐบาลไม่มีแผนสำรองอื่นใดในการยุติสงครามความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 52 ปี และรัฐบาลยังใช้งบประมาณจำนวนมากในการรณรงค์เพื่อการลงประชามติดังกล่าว โดยมีการจัดคอนเสิร์ตเพื่อสันติภาพหลายครั้ง และมีการเชิญนักร้องและนักดนตรีชื่อดังระดับโลกเข้าร่วม ทั้งโบโน นักร้องนำวงยูทูและริงโก สตาร์ อดีตสมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์ รวมถึงจัดทำเอกสารประชามติโดยใช้อักษรเบรลล์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้พิการทางสายตาได้ใช้สิทธิ์เป็นครั้งแรก

รายงานข่าวระบุว่าผู้คัดค้านข้อตกลงสันติภาพไม่พอใจที่รัฐบาลอ่อนข้อให้กลุ่มฟาร์กมากจนเกินไป โดยเงื่อนไขที่ระบุในข้อตกลงสันติภาพยอมให้กลุ่มฟาร์กวางอาวุธและยุติการต่อสู้กับกองทัพรัฐบาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งพรรคการเมืองและเคลื่อนไหวโดยไม่ใช้อาวุธต่อไปภายในเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ข้อตกลงสันติภาพมีผลบังคับใช้ แต่ไม่พูดถึงบทลงโทษในกรณีที่กลุ่มฟาร์กมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้คนเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ด้านนายฟรานซิสโก ซานโตส อดีตรองประธานาธิบดีโคลอมเบีย ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านข้อตกลงสันติภาพดังกล่าว เคยเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบันกลับไปสู่กระบวนการเจรจาเงื่อนไขในข้อตกลงสันติภาพเสียใหม่ เนื่องจากข้อตกลงจะไม่มีผลบังคับใช้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชน และหากไม่มีการเสนอแผนอื่นใดเพิ่มเติมอีกอาจส่งผลให้ข้อตกลงสันติภาพเป็นโมฆะและการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มฟาร์กจะเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง




แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.