ศรีอัมพร ศาลิคุปต์ (ที่มา:Banrasdr Photo)
Posted: 19 Nov 2018 07:05 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-11-19 22:05
ร่าง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภั ยไซเบอร์ใหม่ เพิ่มบทบาทศาล กำหนดโทษเจ้าหน้าที่ชัดขึ้น แต่ยังค้นบ้าน เข้าถึง-คัดลอกข้อมูลได้เอง ผู้พิพากษาอาวุโสกังวล ยังให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริหารเยอะ สะดวก รวดเร็ว แต่สิทธิ เสรีภาพเสี่ยงถูกละเมิด
19 พ.ย. 2561 ที่ศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก ศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์ ได้จัดแถลงข่าวในประเด็นร่าง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภั ยไซเบอร์ โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจคับคั่ ง
ศรีอัมพรแสดงความกังวลต่อร่างฯ ว่า เป็นการให้อำนาจแก่พนักงานเจ้ าหน้าที่ในการใช้ดุลพินิจเพื่ อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุ ญาตจากศาล ถือเป็นการล่วงเกินต่อสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ถ้ามีการให้ศาลกลั่นกรอง ให้ดุลพินิจเป็นรายคดีว่ามีเหตุ อันสมควรหรือไม่ ก็เชื่อว่าจะไม่เสี ยมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมที่ มีหลักนิติธรรมสากล
ผู้พิพากษาอาวุโสกล่าวว่า แม้กฎดังกล่าวจะทำให้เกิ ดความสะดวก รวดเร็วแก่ผู้ใช้งาน แต่ก็อันตรายอย่างยิ่ง เพราะหลักประกันสิทธิ เสรี ภาพของประชาชนและภาคเอกชนจะถู กละเมิดโดยง่าย จะเห็นได้ว่า แต่ละคดีสามารถดูได้รายคดี ไม่ใช่ปล่อยให้พนักงานเจ้าหน้ าที่ไปจับเลย อย่างแต่ก่อนที่ให้อำนาจเจ้าหน้ าที่ตำรวจจับก่อน แจ้งข้อหาทีหลัง ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับ จึงมีการแก้ไขวิธีพิ จารณาความคดีอาญาให้ต้ องขอหมายจับ หมายค้นของศาลก่อน และหลังจับต้องส่งศาลไม่เกิน 48 ชั่วโมง เพื่อพิจารณาสมควรให้ขังหรือไม่
เมื่อถามถึงกลไกตรวจสอบถ่วงดุ ลเจ้าพนักงานที่มีอยู่นั้น ศรีอัมพรตอบว่า ตามระบบก็ต้องใช้ ศาลอาญาในการตรวจสอบ ถ่วงดุล เพราะการออกหมายค้นก็เป็นปรกติ ที่ศาลทำอยู่ ทำไมคดีทั้งหลายผ่านกระบวนการยุ ติธรรมที่ต่างประเทศเชื่อถื อเหตุใดถึงบอกว่าไม่สะดวก อย่างนี้ไม่ได้ เพราะภารกิจของหน่ วยราชการในการทำหน้าที่ป้ องปรามต้องมีฝีมือ อ้างเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้ าที่ไม่ได้
“ถ้าจะไปจับ ไปค้น ขอสถานที่ต่างๆ ต้องขอหมายจับ หมายค้น เพราะกรรมการ บอร์ดใหญก็ดี หรือบอร์ดเล็กก็ดี เขาไม่ได้มาดูรายคดีว่า เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจแค่ไหน เพียงใด การที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้ าที่ฝ่ายบริหารมากเกินไปนั้นเป็ นอันตราย เพราะเมื่อเขามีอำนาจมาก ก็ย่อมสามารถใช้อำนาจนั้นล่ วงละเมิดสิทธิ เสรีภาพประชาชน” ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์กล่ าว
เอกสารแถลงการณ์ของศรีอัมพรระบุ ว่า หากร่าง พ.ร.บ. ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ใช้บั งคับจะมีผลกระทบดังนี้
อัพเดทร่างฯ ใหม่ เพิ่มบทบาทศาล กำหนดโทษเจ้าหน้าที่ชัดขึ้น แต่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดร่ างฯ ฉบับรับฟังความคิดเห็นเมื่อ 11 ต.ค. 2561 ก่อนที่จะมีการพิ จารณาคณะทำงานปรับปรุงร่ างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่ นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. .... ในวันนี้ (19 พ.ย.) อยู่หลายส่วน
กษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่ งชาติ (กปช.) ให้มีหน่วยงานย่อยมารองรั บการทำงานอีกอย่างน้อยสามหน่ วยงาน ได้แก่
รการ งานด้านวิชาการ การประชุม และงานเลขานุการของ กปช. โดยสำนักงานฯ มีสถานะเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานราชการ แต่มีการเปลี่ยนแปลงให้ไม่มี อำนาจในการร่วมหุ้น หรือกู้ยืมเงินเพื่อบรรลุวัตถุ ประสงค์ของสำนักงานได้ และดอกผลหรือรายได้จากทรัพย์สิ นของสำนักงานนั้นต้องนำส่งกลั บคลังเป็นรายได้ของแผ่นดิน และให้ คกปช. ควบคุมการบริหารงานและการดำเนิ นงานของสำนักงานและเลขาธิการ
ร่างฯ ใหม่ได้ปรับลดอำนาจเลขาธิการที่ แต่เดิมสามารถออกคำสั่งเพื่อป้ องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ลดลง และกระจายบทบาทไปอยู่ ตามคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นใหม่ เช่น ให้อำนาจ คปมช. ในการขอข้อมูล สอบถามผู้มีความรู้ เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องไปให้ข้ อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการวิ เคราะห์สถานการณ์ และประเมินผลกระทบจากภัยคุ กคามไซเบอร์ ซึ่งแต่เดิมเป็นอำนาจของสำนั กงานฯ
ในกรณีภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในระดับร้ายแรง (มาตรา 58-59) ให้ กปช. หรือ คปมช. ยื่นคำร้องต่อศาลที่มี เขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งต่อไปนี้ ซึ่งร่างฯ เดิม นั้นไม่ต้องขออนุญาตศาล
อำนาจในการออกคำสั่งเหล่านี้ โดยไม่ต้องมีหมายศาล
งให้พนักงานเจ้าพน้าที่ปฏิบัติ การต่อไปนี้โดยไม่ต้องขอหมายศาล (มาตรา 59)
ยนแปลงบทกำหนดโทษต่ อการทำงานของเจ้าหน้าที่และพนั กงานสอบสวนตามร่างฯ ให้ชัดเจนขึ้น มีการกำหนดโทษพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานสอบสวนที่เปิดเผย ส่งมอบข้อมูลที่ได้มาตามร่างฯ นี้แก่บุคคลใด (ยกเว้นเพื่อประโยชน์ในการดำเนิ นคดีกับผู้กระทำความผิดตามร่ างฯ) หรือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลที่ได้ มา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามหรื อหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามลำดับ
ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลข้างต้นแล้ วไปเปิดเผยต่อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ใดที่ขัดขวาง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่ อำนวยความสะดวกแก่เลขาธิการหรื อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบั ติงานตามมาตรา 59 โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 150,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ร่าง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภั
19 พ.ย. 2561 ที่ศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก ศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์ ได้จัดแถลงข่าวในประเด็นร่าง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภั
ศรีอัมพรแสดงความกังวลต่อร่างฯ ว่า เป็นการให้อำนาจแก่พนักงานเจ้
ผู้พิพากษาอาวุโสกล่าวว่า แม้กฎดังกล่าวจะทำให้เกิ
เมื่อถามถึงกลไกตรวจสอบถ่วงดุ
“ถ้าจะไปจับ ไปค้น ขอสถานที่ต่างๆ ต้องขอหมายจับ หมายค้น เพราะกรรมการ บอร์ดใหญก็ดี หรือบอร์ดเล็กก็ดี เขาไม่ได้มาดูรายคดีว่า เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจแค่ไหน เพียงใด การที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้
เอกสารแถลงการณ์ของศรีอัมพรระบุ
- ทำลายหลักการและโครงสร้
างของระบบประชาธิปไตย - ทำให้กระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็
นหลักประกันสิทธิ เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและสิทธิความเป็ นมนุษย์ สิทธิทางการเมือง สิทธิความเป็นส่วนตัวถูกทำลาย - ทำให้กระบวนการยุติธรรมที่ใช้
ในระบอบประชาธิปไตยล้มเหลว - ทำให้โครงสร้างการปกครองจากนิติ
รัฐกลายเป็นรัฐตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมืองและฝ่ ายบริหารจะใช้กฎหมายนี้ กำราบปราบปรามศัตรูทางการเมือง ศัตรูทางความคิดที่ไม่ตรงกับผู้ ปกครองได้โดยง่าย - ทำให้ประเทศชาติไม่ได้รั
บการยอมรับจากนานาชาติ เพราะโครงสร้างระบอบประชาธิ ปไตยถูกบิดเบือนไป เป็นระบบคณาธิปไตย ขัดธรรมเนียมปฏิบัติ ตามกฎหมายระหว่างประเทศและวั ฒนธรรมทางการเมืองที่ประเทศที่ นิยมประชาธิปไตยถือปฏิบัติ - เป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุ
นจากประเทศอื่น เนื่องจากเกิดความไม่ วางใจในการถูกล่วงละเมิดความลั บทางการค้า ทางลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัติ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ าและเครือข่ายการทำธุรกิจ นักลงทุนไม่กล้ามาลงทุนในประเทศ - ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่
างประเทศเสื่อมทรามและไม่เชื่ อมั่นในประเทศไทย
อัพเดทร่างฯ ใหม่ เพิ่มบทบาทศาล กำหนดโทษเจ้าหน้าที่ชัดขึ้น แต่ ยังค้นบ้าน เข้าถึง-คัดลอกข้อมูลได้เอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดร่
อ่านสรุปรายละเอียดการแก้ไขร่ างกฎหมาย
ร่างกฎหมาย เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 61
อ่านสรุปร่างฯ ฉบับรับฟังความเห็นเมื่อ 11 ต.ค. เมื่อความปลอดภัยกับละเมิ ดสิทธิห่างแค่เส้นเบลอๆ
ในส่วนของโครงสร้างองค์กรนั้น ร่างฯ ปัจจุบันให้คณะกรรมการการรัร่างกฎหมาย เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 61
อ่านสรุปร่างฯ ฉบับรับฟังความเห็นเมื่อ 11 ต.ค. เมื่อความปลอดภัยกับละเมิ
- คณะกรรมการกำกับสำนักงานรั
กษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่ งชาติ (คกปช.) ดูแลงานด้านกิจการธุรการทั่วไป - คณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่
นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (คปมช.) ดูแลเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ และความมั่นคง - คณะกรรมการส่งเสริมด้านโครงสร้
างพื้นฐานสาระสำคัญทางเทคโนโลยี สารสนเทศแห่งชาติ (คกสส) ดูแลเรื่องมาตรฐานขั้นต่ำ ของระบบไซเบอร์และส่งเสริ มการลงทุน - คณะกรรมการอื่นใดเป็นตั
วแทนในการบริหารจัดการภายใต้ อำนาจกำกับดูแลของ กปช.
ร่างฯ ใหม่ได้ปรับลดอำนาจเลขาธิการที่
ในกรณีภัยคุกคามทางไซเบอร์
- ขอเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์หรื
อระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลทรัพย์สินสารสนเทศที่ เกี่ยวข้องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครอง หรือผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรื อระบบคอมพิวเตอร์ หรือผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ ในกรณีที่เกิดหรือคาดว่าจะเกิ ดภัยคุกคามทางไซเบอร์ซึ่งอยู่ ในระดับร้ายแรงด้วย ซึ่งร่างฯ เดิมนั้นให้อำนาจกับเลขาธิ การโดยไม่ต้องขอศาล - ทดสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์หรื
อระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอั นควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องหรื อได้รับผลกระทบจากภัยคุ กคามทางไซเบอร์ - ยึดหรืออายัดคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ใดๆ เท่าที่จำเป็นซึ่งมีเหตุอั นควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับภั ยคุกคามทางไซเบอร์เป็ นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน
- เฝ้าระวังคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงหนึ่ง
- ตรวจสอบคอมพิวเตอร์หรื
อระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้ อบกพร่องที่กระทบต่อากรรั กษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ - ดำเนินมาตรการแก้ไขภัยคุกคาม ได้แก่ กำจัดชุดคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ ปรับปรุงซอฟต์แวร์ ยกเลิกการเชื่อมต่อชั่วคราว เปลี่ยนเส้นทางจราจรของข้อมู
ลหรือชุดคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ และมาตรการอื่นเพื่อลดความเสี่ ยง - หยุดการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์
หรือคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหรื อบางส่วนเท่าที่จำเป็น
- เข้าตรวจสถานที่ โดยมีหนังสือแจ้งถึงเหตุอั
นสมควรไปยังเจ้าของหรือผู้ ครอบครองสถานที่ หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามี คอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องหรือได้รั บผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ - เข้าถึงทรัพย์สินสารสนเทศ ทำสำเนา หรือสกัดคัดกรองข้อมู
ลสารสนเทศหรือโปรแกรมคอมพิ วเตอร์ซึ่งมีเหตุควรเชื่อได้ว่ าเกี่ยวข้องหรือได้รั บผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลข้างต้นแล้
ส่วนผู้ใดที่ขัดขวาง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่
แสดงความคิดเห็น