Posted: 23 Nov 2018 10:48 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-11-24 01:48
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ขอให้ผู้สอนรายวิชาสัมมนาการเมืองการปกครองไทยยกเลิกการสัมนาที่มี ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw เป็นวิทยากร เพราะได้รับแรงกดดันจากทหาร สันติบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากกังวลกรณีการเข้าชื่อปลดอาวุธ คสช. ด้านผู้สอนถูกแม่ทัพภาค 3 เรียกพบ ส่วนตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบในมหาวิทยาลัยว่ายกเลิกกิจกรรมจริงหรือไม่
24 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้รับแจ้งจาก ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ว่า ถูกขอให้ยกเลิกเข้าบรรยายในเวทีสัมมนาวิชาการทางรัฐศาสตร์ หัวข้อ “การเมืองไทยคนรุ่นใหม่ควรนิ่งไว้ หรือไปต่อ” ซึ่งเป็นงานที่จัดโดยนักศึกษาวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ที่จะจัดขึ้นในเวลา 08.30 น. วันที่ 24 พ.ย. เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล มีความกังวลกับกิจกรรมของ iLaw ที่จะมีการเปิดมีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. 35 ฉบับ ขณะที่อาจารย์ผู้สอนเจ้าของวิชาสัมมนาการเมืองการปกครองไทย ถูกเรียกพบแม่ทัพภาคที่ 3 ในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 07.30 น. โดยแม่ทัพภาคที่ 3 จะเข้ามาพูดคุยในมหาวิทยาลัย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาสังเกตการณ์การเรียนการสอนเพื่อตรวจสอบว่า ยังมีการจัดสัมมนา และกิจกรรมเข้าชื่อปลดอาวุธ คสช. อยู่หรือไม่
ยิ่งชีพ ให้ข้อมูลว่า เขาเดินทางมาถึงจังหวัดพิษณุโลกช่วงเย็นของวันที่ 23 พ.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. เพื่อเตรียมตัวบรรยายในห้องเรียนวิชาสัมมนาการเมืองการปกครองไทย ซึ่งเขาได้รับเชิญจากนักศึกษาในรายวิชาให้มาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “การเมืองไทยคนรุ่นใหม่ควรนิ่งไว้ หรือไปต่อ” โดยก่อนหน้านี้เขาได้แจ้งกับนักศึกษาว่า หลังจากบรรยายเสร็จแล้วจะขอเปิดโต๊ะรับการเข้าชื่อเพื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. และได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมทั้งสองกิจกรรมทางเฟซบุ๊ก และไลน์ออฟฟิเชียลของ iLaw
ต่อมา เวลาประมาณ 18.00 น. ยิ่งชีพได้รับการติดต่อจากอาจารย์ผู้สอนว่า การจัดสัมมนาวิชาการในวันพรุ่งนี้อาจจะไม่สามารถจัดได้ พร้อมทั้งเชิญให้เขา เข้าไปพูดคุยกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ผู้บริหารวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 39 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อยิ่งชีพไปถึงพบว่า กลุ่มผู้บริหารได้ชี้แจงว่าขอให้ยกเลิกการจัดสัมมนาดังกล่าว เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยได้รับการติดต่อทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ทหารว่า จะมีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกคำสั่ง คสช.
อย่างไรก็ตาม ยิ่งชีพได้ต่อรองว่า หากทางมหาวิทยาลัย และฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ก็จะไม่ทำกิจกรรมดังกล่าว แต่ขอเข้าบรรยายในวิชาสัมมนาเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่เนื่องจากเดินทางมาแล้ว และต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักศึกษาในรายวิชา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารระบุว่า “ช่วงนี้ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว ไม่อยากให้มีแรงกระเพื่อม”
เมื่อผู้สื่อข่าวประชาไท ติดต่อสอบถามไปยังอาจารย์ท่านหนึ่งในวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น ทราบว่า อาจารย์ผู้สอนได้รับการติดต่อจากผู้บริหารมหาวิทยาลัย ว่ามหาวิทยาลัยได้รับแรงกดดันจากหลายส่วน เช่น ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เนื่องมีความกังวลกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. ของ iLaw โดยขอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมดังกล่าว และไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยจัดการสัมมนา พร้อมทั้งเรียกให้ผู้สอนรายวิชาการเมืองการปกครองไทยไปพูดคุยกับแม่ทัพภาค 3 ในวันรุ่งขึ้น โดยแม่ทัพภาค 3 จะเข้ามาพูดคุยในมหาวิทยาลัย
“ตอนเย็นที่พูดคุยกัน คุณยิ่งชีพก็ได้ชี้แจงไปว่า การเข้าชื่อเสนอกฎหมายปลดอาวุธ คสช. เป็นกิจกรรม ที่ iLaw ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางนักศึกษา หรือมหาวิทยาลัย เพียงแค่เห็นว่าการเข้าชื่อเสนอกฎหมายเป็นสิทธิที่ประชาชนทุกคนสามารถทำได้ แต่พรุ่งนี้อาจารย์ผู้สอนก็จะต้องเข้าไปพบกับแม่ทัพภาค 3 และจะมีตำรวจเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพื่อตรวจสอบดูว่ายังมีการจัดการสัมมนาอยู่หรือไม่... คือทั้งหมดนี้มันคงเป็นเพราะที่นี่เป็นพิษณุโลกด้วย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีกิจกรรมลักษณะนี้มาก่อน ก็คงอ่อนไหวกันกว่าปกติ ทั้งๆ ที่งานนี้เป็นงานเล็กๆ เท่านั้น” อาจารย์ท่านหนึ่งในวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น กล่าว
ภาพจาก iLaw
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า การเข้าชื่อเสนอกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. 35 ฉบับ หรือเข้าชื่อ ‘ปลดอาวุธคสช.’ เป็นกิจกรรมที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 15 ม.ค. 2561 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย 23 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งมี iLaw เป็นผู้รวบรวมรายชื่อ (สามารถเข้าเสนอยื่นออนไลน์ได้ที่นี่)
แสดงความคิดเห็น