ภาพขวา : ร.ต.สนาน ทองดีนอก, ภาพซ้าย : สระว่ายน้ำที่ฝึก

Posted: 25 Nov 2018 10:31 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-11-26 13:31


คดีมารดา-ภรรยา ของ ร.ต.สนาน ฟ้องกองทัพบก เรียกค่าเสียหาย จากเหตุการณ์ ร.ต.ร.ต.สนาน เสียชีวิตในระหว่างฝึกหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่นที่ 11 โดย ศาลแพ่งนัดสืบทหารหัวหน้าครูฝึกผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุ 23 ม.ค. พร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 มี.ค.62

26 พ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับเจ้งจาก มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ว่า เมื่อวันที่ 20 ถึงวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 717 ศาลแพ่ง (ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร)ผู้พิพากษาแพ่งออกนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์และจำเลย ในคดีหมายเลขดำ ที่ พ.2580/2559 คดีระหว่าง หวาน ทองดีนอก โจทก์ที่ 1 ธัญญารัตน์ วรรณสถิตย์ โจทก์ที่ 2 กับ กองทัพบก จำเลย เรียกค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จากเหตุการณ์ ร.ต.สนาน ทองดีนอก เสียชีวิตในระหว่างฝึกหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่นที่ 11 โดยหลักสูตรดังกล่าวได้จัดให้มีการทดสอบความสามารถโดยการว่ายน้ำ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นหัวหน้าครูฝึกมีหน้าที่กำกับดูแลการฝึก ถูกกล่าวหาว่าขณะเกิดเหตุ ร.ต.สนาน ได้ถูกบังคับให้ว่ายน้ำไป-กลับ ภายในสระว่ายน้ำโดยไม่มีการหยุดพักหลายสิบรอบ ซึ่งเกินกำลังความสามารถที่ร่างกายจะรับได้ เป็นเหตุให้ ร.ต.สนาน จมลงไปก้นสระเป็นเวลานาน โดยที่ครูฝึกซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้เข้ารับการฝึกกลับปล่อยปละละเลยไม่เข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

วันที่ 20 พ.ย.2561 สืบพยานโจทก์ปากสุดท้ายคือเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งทำหน้าที่เป็นพยาบาลภาคสนามในวันเกิดเหตุเบิกความว่าตนเป็นคนที่ลงไปช่วย ร.ต.สนาน จากสระว่ายน้ำ

วันที่ 21 และ 22 พ.ย. 2561 สืบพยานจำเลยจำนวน 4 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นคณะกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกองทัพบกในกรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.สนาน, เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายธุรการ, พนักงานสอบสวนและแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายความจำเลยแถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลยไปอีกหนึ่งนัด เพราะยังมีพยานอีกหนึ่งปากซึ่งติดภารกิจมาศาลไม่ได้ เป็นพยานปากสำคัญเนื่องจากพยานดังกล่าวเป็นทหารหัวหน้าครูฝึกผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้ ร.ต.สนาน ถึงแก่ความตาย ศาลจึงมีคำสั่งกำหนดนัดสืบพยานจำเลยอีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 09.00-16.30 น. พร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 มี.ค. 2562 เวลา 09.00 น.

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุด้วยว่า คดีนี้เป็นหนึ่งในอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เข้าข่ายเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งกองทัพบกในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร ควรมีการตรวจสอบ ควบคุมกำกับกำลังพลทุกหน่วยทุกระดับ มิให้เกิดเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดต่อร่างกายและชีวิตของประชาชนทั่วไป ทหารเกณฑ์หรือเจ้าหน้าที่ทหารด้วยกันเองทุกระดับ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลฝ่ายทหาร โดยถือหลักสากลในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง คือ อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment - CAT) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคีที่พึงต้องยึดถือปฏิบัติ

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.