Posted: 24 Nov 2018 02:30 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-11-24 17:30


คนทำงานในภาคการก่อสร้างในสหรัฐฯ มีอัตราการฆ่าตัวตายที่ 53.2 ต่อ 100,000 คน ส่วนในกลุ่มคนทำงานผู้หญิง อัตราฆ่าตัวตายจะสูงที่สุดในกลุ่มผู้ที่ทำงานด้านศิลปะ บันเทิง กีฬา และสื่อ ที่ 16 ต่อ 100,000 คน

24 พ.ย. 2561 รายงานประจำสัปดาห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention - CDC) ประจำวันที่ 16 พ.ย. 2561 ได้เผยแพร่สถิติการฆ่าตัวตายของคนทำงานในสหรัฐฯ พบว่าคนทำงานในภาคก่อสร้างเป็นกลุ่มอาชีพที่มีอัตราฆ่าตัวตายสูงสุด

CDC ได้ข้อสรุปข้อมูลจาก 17 รัฐ โดยในปี 2555 อัตราการฆ่าตัวตายของคนทำงานในภาคการก่อสร้างอยู่ที่ 43.6 ต่อ 100,000 คน (จำนวน 1,009 คน) อัตราได้เพิ่มเป็น 53.2 ต่อ 100,000 คน (จำนวน 1,248 คน) ในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าอัตราการฆ่าตัวตายของคนทำงานอเมริกันอายุระหว่าง 16 ถึง 64 ปี 2543-2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จาก 12.9 ต่อ 100,000 คน เป็น 17.3 ต่อ 100,000 คน

ส่วนในกลุ่มคนทำงานผู้หญิงพบว่าอัตราฆ่าตัวตายจะสูงที่สุดในกลุ่มผู้ที่ทำงานด้านศิลปะ บันเทิง กีฬา และสื่อ ที่อัตรา 16 ต่อ 100,000 คน ตามมาด้วยคนทำงานหญิงภาคการบริการ และภาคการดูแลสุขภาพ เป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนกลุ่มอาชีพที่มีอัตราการฆ่าตัวตายต่ำทั้งชายและหญิงได้แก่ ภาคการศึกษา ภาคการฝึกอบรม และคนทำงานในห้องสมุด

ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันการบาดเจ็บจากการทำงานแห่งชาติของ CDC ระบุว่าอัตราการฆ่าตัวตายในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นแสดงถึงโศกนาฏกรรมต่อครอบครัว ชุมชน และส่งผลกระทบต่อแรงงานอเมริกัน โดยความพยายามที่มุ่งเน้นในการป้องกันการฆ่าตัวตายจะสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น

ทั้งนี้ในรายงานของ CDC ยังระบุว่ามีงานวิจัยหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นเกี่ยวกับบทบาทของสถานที่ทำงานในการป้องกันการฆ่าตัวตายขั้นต้นถือเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การปรับปรุงสภาพการทำงาน และการลดความเครียด เป็นต้น



ที่มาเรียบเรียงจาก
Construction workers have highest rate of suicide among American workers (constructiondive.com, 20/11/2018)
Suicide Risk Highest In Construction, Media, Sports Jobs, CDC Report Finds (medicaldaily.com, 16/11/2018)

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.