"ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจหมายถึงการนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ หากเป็นเช่นนั้น “การเต้น” จะนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบได้อย่างไร. การเต้นก็คือการเต้น หากท่านคิดว่าข้อใดเป็นเท็จ ก็โปรดกรุณาชี้แจงให้ชัดเจน"
"ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับกฎหมายความมั่นคง “ความมั่นคง” ของท่านเปราะบางขนาดที่จะถูกคุกคามด้วยการเต้นชองนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งเลยหรือ "

000000

วันนี้ (9 มิถุนายน) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ “ผมผิดอะไร” ระบุว่า
เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ท่านสมชัย ศรีสุทธิยากร หนึ่งในคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงว่า ผู้ที่ปรากฎตัวในคลิปเพลงของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ อาจมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญา กฎหมายความมั่นคงและประกาศของ คสช. นอกจากนี้ยังได้แนะนำบุคคลราว 20 กว่าคนในคลิป ซึ่งรวมผมด้วยนั้น ให้ไปทำบันทึกประจำวันหากต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ผมในฐานะที่เป็นนักเรียนที่เคลื่อนไหวประเด็นการศึกษาในร่างรัฐธรรมนูญ และถูกพาดพิงในครั้งนี้ ชี้แจงจุดยืนของผม ดังนี้
นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเบื้องต้น คนในแวดวงการศึกษาก็เริ่มวิตกกังวลว่า การที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยกเลิกการกำหนดให้รัฐสนับสนุนสวัสดิการเรียนฟรีระดับมัธยมปลายและสายอาชีพนั้น จะเป็นการริดรอนสิทธิเยาวชนหรือไม่ ผมเองก็ให้ความสนใจต่อประเด็นดังกล่าวและพยายามเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ตลอดจนมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ด้วยหวังว่าจะนำพาความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ผมได้อ่านมาตราการศึกษาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ ที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้ว่าจะคงระยะเวลาเรียนฟรี 12 ปีดังเดิม แต่ก็ตัดทอนสวัสดิการเรียนฟรีระดับมัธยมปลายและสายอาชีพ ซึ่งเป็นการศึกษาวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต โดยไปสนับสนุนสวัสดิการการศึกษาระดับปฐมวัย ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังกำหนดให้นักเรียนที่มีปัญหาทางการเงินต้องหันไปพึ่งพากองทุน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระทางธุรการให้แก่นักเรียน และยังมีความเสี่ยงว่าจะมีนักเรียนจำนวนมากตกหล่นจากระบบการศึกษา นอกจากนั้นยังเป็ยการเพิ่มภาระต่อผู้ปกครองทุกระดับ ด้วยหลักการตามรัฐธรรมนูญนี้ “ม.ปลายฟรี” จะเป็นเพียงการสงเคราะห์จากรัฐเป็นรายบุคคล แทนที่จะเป็นสิทธิที่ประชาชนทุกคนจะต้องได้อย่างเท่าเทียมกันและมีศักดิ์ศรี เมื่อสถานการณ์ของนักเรียนมัธยมปลายและสายอาชีพตกต่ำลงกว่าเมื่อครั้งมีรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ๆ ในช่วงค่ำวันที่ 29 นั้นเอง ผมและเพื่อนจึงเริ่มแคมเปญ “เอาม.ปลายฟรีของเราคืนมา” และพวกเราก็ได้แสดงจุดยืนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าในฐานะนักเรียน เราไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิการศึกษาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน เราได้ทำกิจกรรมหลายอย่างเพื่อสื่อสารต่อสังคมว่าเราไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ เราเคลื่อนไหวเพราะเราเชื่อว่าเยาวชนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เมื่อเห็นความไม่ถูกต้อง เยาวชนก็ควรจะชี้ให้เห็นความบิดเบี้ยวนั้น เมื่อเห็นว่าสิทธิ ม.ปลายฟรี ซึ่งเป็นของเรา เป็นของน้องเรา จนไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเรากำลังถูกลิดรอนไป เราก็จำเป็นต้องแสดงตัวเพื่อให้สังคมรับรู้ว่า เยาวชนไม่ยอมให้ใครพรากสิทธิอันควรได้ของเราไป
ในช่วงต้นเดือนเมษายนนั้นเอง กลุ่มพลเมืองโต้กลับได้เชิญชวนผมให้ร่วมวาดฝีมายลายเท้าในคลิปเพลง “อย่างนี้ต้องตีเข่า (โหวตไม่เอาแล้วตีตก)” เพื่อแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญ จุดยืนของผมนั้นไม่อาจยอมรับร่างรัฐธรรมนูญที่พรากสิทธิเยาวชนและทำลายการศึกษาไทยได้อยู่แล้ว ผมจึงตอบตกลงเพื่อแสดงจุดยืนของผมผ่านการ “เต้น” ซึ่งผมคิดว่าเป็นศิลปะการแสดงออกอย่างสันติ ไม่ละเมิดสิทธิผู้ใด
และในวันนี้ ท่านสมชัยแถลงว่าการ “เต้น” ของผมอาจขัดต่อ พรบ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญา กฎหมายความมั่นคงแ และคำสั่ง คสช. ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ผมอาจต้องถูกดำเนินคดี ผมอาจต้องขึ้นศาลเด็กและเยาวชน หรือกระทั่งศาลทหาร และผมอาจต้องได้รับโทษทางอาญา ซึ่งอาจสูงถึงขั้นจำคุกก็ได้ ก่อนที่เหตุการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้น ผมขออนุญาตเรียนถามท่านสมชัย และท่านใดก็ตามที่คิดจะดำเนินคดีพวกเราสั้น ๆ
ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจหมายถึงการนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ หากเป็นเช่นนั้น “การเต้น” จะนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบได้อย่างไร การเต้นก็คือการเต้น และผมเชื่อว่าเนื้อหา ทั้งของเพลงที่เต้นและสาส์นที่ผมพยายามสื่อมาโดยตลอด ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น หากท่านคิดว่าข้อใดเป็นเท็จ ก็โปรดกรุณาชี้แจงให้ชัดเจน
ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับกฎหมายความมั่นคง “ความมั่นคง” ของท่านเปราะบางขนาดที่จะถูกคุกคามด้วยการเต้นชองนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งเลยหรือ เพียงแค่แสดงจุดยืนของตัวเองผ่านศิลปะอย่างสงบ ใช้สันติวิธี ก็ถือว่าเป็นการปลุกระดมได้แล้วหรือ
ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับกฎหมายอาญา เพียงการเต้น การแสดงจุดยืนอย่างสันตินั้นจะผิดกฎหมายมาตราใดหรือ ผมมิได้พาดพิงใครในทางเสียหายอย่างเจาะจงรายบุคคล ท่านจะถือว่าผมหมิ่นประมาทผู้ใดได้หรือ และที่ท่านกล่าวหาว่าผมอาจละเมิดประกาศของ คสช. ผมละเมิดประกาศฉบับใด ข้อใดหรือ เพียงเต้นกันเฉย ๆ จะถูกดำเนินคดีเลยหรือ
ผมขอยืนยันว่าทุกการกระทำของผมล้วนบริสุทธิ์ใจ เป็นไปเพื่อทวงคืนสิทธิการศึกษา ซึ่งก็เป็นประโยชน์ส่วนรวมทั้งสิ้น ผมเต้นประกอบคลิปเพลงด้วยความซื่อสัตย์ต่อหลักการของผม ซึ่งมีผลประโยชน์ของสังคมเป็นใหญ่ ผมไม่ได้มุ่งทำร้ายใคร ผมไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร เหตุใดท่านจึงคิดว่า การกระทำของผมและท่านอื่นในคลิปจะละเมิดกฎหมายทั้งหลายเหล่านั้น ซ้ำยังจะให้พวกเราไปลงบันทึกประจำวัน ในความผิดที่ไม่ใช่ความผิดเสียอีก
ผมยังคงยืนยันว่าผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายอันชอบธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น การที่นักเรียนลุกขึ้นมาทวงสิทธิการศึกษาคืนนั้นจะเป็นความผิดไปได้อย่างไร แต่หากท่านคิดว่าผมทำผิด ก็ขอให้มาควบคุมตัวผมไปดำเนินคดีเสีย ให้จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ว่าครั้งหนึ่ง ในประเทศไทย การลุกขึ้นทวงสิทธิและแสดงความคิดเห็นโดยสันตินั้นผิดกฎหมาย และจะต้องมีนักเรียนถูกลงโทษ เพียงเพราะลุกขึ้นมาทวงสิทธิเหนือสวัสดิการการศึกษาของตนเอง รวมถึงเพื่อนนักเรียนหลายล้านชีวิตและคนรุ่นลูกรุ่นหลานที่จะต้องเข้าสู่ระบบการศึกษาต่อไป ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านจนจบเป็นสักขีพยานในการคำถามของผม ว่าสุดท้ายแล้ว ผมผิดอะไร
Source :- FB & http://www.matichon.co.th/news/167421

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.