องค์กร Cee4life ยืนยันมีหลักฐานมัดวัดป่าหลวงตามหาบัวกระทำผิดจริง ด้านวัดแถลงข่าวปฏิเสธทุกประเด็น
องค์กร Cee4life (Conservation and Environmental Education for Life) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของประเทศออสเตรเลียยืนยันกับบีบีซีไทยว่ามีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (วัดเสือ) ดำเนินการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายจริง เผยส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้กรมอุทยานฯ แล้ว ด้านลูกศิษย์หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดเปิดแถลงข่าวโดยปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องในทุกกรณี
ดอนนา เรย์โนลด์ เจ้าหน้าที่ของ Cee4life เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ทางองค์กรได้ติดตามและเก็บบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นที่วัดเสือมาเป็นเวลาหลายปี และมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าวัดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าเสืออย่างผิดกฎหมายจริง โดยหลักฐานดังกล่าวได้ถูกส่งให้กับกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยส่วนหนึ่งเป็นหลักฐานจากอาสาสมัครซึ่งเคยทำงานที่วัดได้บันทึกวิดีโอคำสารภาพของคนงานซึ่งทำงานที่วัดยอมรับว่าพระในวัดเป็นผู้สั่งให้เปิดประตูวัดหลังเวลาปิดทำการเพื่อให้ขบวนการลักลอบสามารถเข้าไปในวัดได้หลังจากปลอดคนแล้ว หลังจากนั้นเสือในวัด 3 ตัวได้หายไป และจนถึงขณะนี้ทางวัดก็ไม่ได้ให้ชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ของ Cee4life กล่าวอีกว่า ได้ส่งรายงานเพิ่มเติมให้กับกรมอุทยานฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหลักฐานแน่นหนาชี้ให้เห็นว่าทางวัดได้แจกจ่ายและขายชิ้นส่วนเสือให้กับพนักงาน อาสาสมัคร และนักท่องเที่ยว ที่ไปเยือนวัดมาตั้งแต่ปี 2553
“เราสงสัยอยู่แล้วว่าทางวัดกระทำดังกล่าว และจากการติดตามทางโซเชียลมีเดีย เราพบว่าอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ซื้อของเหล่านั้นเป็นที่ระลึกจากวัด และสวมใส่มันขณะเดินทางกลับประเทศ โดยไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าชิ้นส่วนของสัตว์เหล่านั้น จะมาจากเสือที่ตายแล้วหรือจากลูกเสือก็ตาม ”
ก่อนหน้านี้ องค์กร Cee4life ได้ออกมาแสดงหลักฐานเกี่ยวกับเสือที่ถูกนำเข้าและเคลื่อนย้ายออกจากวัดเสืออย่างผิดกฎหมาย โดยนำรายงานส่งมอบให้กับกรมอุทยานฯ และเผยแพร่ข้อมูลชุดแรกสู่สาธารณะเมื่อเดือนมกราคม 2559
ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า วันนี้ นายศิริ หวังบุญเกิด อดีต ส.ส.กทม. ได้เป็นผู้เปิดแถลงข่าวที่หน้าประตูทางเข้าออกวัดป่าหลวงตาบัวฯ โดยระบุว่าการขนย้ายเสือของกลางจำนวน 137 ตัว น่าจะเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีเพียงหมายค้น มิใช่คำพิพากษาของศาล ทั้งที่กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการฟ้องร้องเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลเสือ ดังนั้นจึงน่าจะถือว่าเป็นการ “ปล้น” ได้
ไทยรัฐรายงานอีกว่า สำหรับซากสัตว์ที่พบถูกดองน้ำยาภายในวัดนั้น นายศิริระบุว่าเป็นการกระทำของสัตวแพทย์คนก่อนซึ่งไม่ได้อยู่ในวัดแล้ว และทางวัดไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ส่วนซากลูกเสือที่พบในตู้เย็นเป็นเพราะคนงานต้องการเก็บหลักฐานเพื่อแจ้งให้หัวหน้าทราบ ก่อนจะแจ้งทางการต่อไป แต่หัวหน้าอาจจะลืม
ไทยรัฐรายงานด้วยว่า นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของวัด กล่าวว่าตะกรุดหนังเสือและเครื่องรางต่าง ๆ ที่พบนั้น เป็นของคนนอกที่เข้ามาทำ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจจึงขนออกไปเพราะกลัวความผิด ยืนยันได้ว่าวัดไม่เคยปลุกเสกวัตถุมงคลใด ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ “หลวงตาจันทร์” เจ้าอาวาสวัดได้ปรากฏตัวแต่ไม่ได้แถลงข่าวด้วยตนเอง เนื่องจากยังอยู่ระหว่างอาพาธ ‪#‎วัดเสือ‬

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.