Atukkit Sawangsuk

อยู่มา 3 ปี ทำไมเพิ่งคิดปรองดอง ปรองดองเพื่ออะไร ก็เพื่อจัดระเบียบคุมอำนาจต่อ ในโรดแมปภาค 2 ไง เพื่อไปสู่รัฐบาลนายกฯ คนนอก 250 ส.ว. ที่มีพรรคการเมืองหนุน (หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้าน) พร้อมกับมาตรการกระชับอำนาจจำกัดเสรีภาพประชาชน เพื่อปกปักรักษา "ความมั่นคงสูงสุดของชาติ" เป้าหมายของการรัฐประหาร

นั่นละครับ ตรงเป้าที่สุด เพียงแต่ไม่ได้เขียนโต้งๆลงในข่าวสด 55
ผมจึงย้ำว่านี่มันต่างจากยุคหลัง 6 ตุลา ซึ่งถึงแม้ไม่เกิดความยุติธรรม แต่อำนาจระดับบนเมื่อกุมอำนาจได้มั่นคงแล้วก็ฉลาดพอที่จะผ่อนคลาย กลับสู่ประชาธิปไตยครึ่งใบ เผื่อแผ่อำนาจให้ทุกฝ่าย ผ่อนคลายให้มีเสรีภาพระดับหนึ่ง ระดับบนมีกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน (ยุคสฤษดิ์ถนอม เอกชนไม่มีส่วนร่วม) มีพรรคการเมือง มี NGO สหภาพแรงงาน มีเสรีภาพสื่อ ฯลฯ แล้วสังคมก็เดินไปได้ (แม้ไม่สะสาง 6 ตุลา ปิดกั้นภูมิปัญญา-วัฒนธรรม)

แต่วันนี้ ต่างกันตรงที่อำนาจระดับบนไม่มั่นคง และไม่กล้าผ่อนคลาย ทำได้แค่พยายามจะปรองดองกับนักการเมือง แต่ไม่สามารถปรองดองกับประชาชน ซึ่งพรรคการเมืองต่อให้กระสันแค่ไหนก็ยังต้องฟังมวลชน ยุคสมัยเปลี่ยนไป มันไม่ใช่การเมืองทศวรรษ 2520 ที่ประชาชนยังมีส่วนร่วมน้อย แต่ยุคนี้ ต่อให้พรรคเพื่อไทยยอมร่วมหัวจมท้าย ก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า ประชาชนไม่เอาด้วย เผลอๆ จะเกิดประชาชนขั้วใหม่

มองในมุมกลับ เราจะเห็นว่า คสช.ก็กำลังเข้ามุมอับ คืออยู่แบบนี้ต่อไปได้ไม่นาน อย่างเก่งก็ปีกว่า ทางลงในการคุมอำนาจต่อหลังเลือกตั้ง แหงละ ทำได้ แต่มันก็ไม่ราบรื่น ถ้าไม่มั่นใจคุณจะกล้าโยน ม.44 ทิ้งเพื่อไปเป็นนายกฯ คนนอกได้ไง

ฉะนั้นต้องยื้อกันไป คอยดูใครอึดกว่ากัน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.