Posted: 14 Dec 2017 07:59 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

เสรี สุวรรณภานนท์

การปฏิรูปการเมือง สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมืองอย่างแท้จริง


ที่ผ่านๆมา เราใช้กระบวนการทางพรรคการเมือง เป็นตัวขับเคลื่อนงานทางการเมือง โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการตั้งตัวแทนเข้ามาทำงานการเมืองโดยผ่านระบบพรรคการเมือง ที่มีสมาชิกพรรคการเมือง เป็นองค์ประกอบสำคัญของความเป็นพรรคการเมือง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีประชาชนจำนวนมากมีชื่อไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยตัวเองไม่รู้ตัว และมิได้สมัครใจ แต่มาจากการเกณฑ์ ร้องขอ หรือ ได้ผลประโยชน์แล้วเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค โดยที่ตนเองจำไม่ได้หรือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว

ดังนั้น ความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง จำนวนมากจึงขาดความตั้งใจและขาดอุดมการณ์ในการเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าว หรือถูกแอบอ้างนำชื่อของตนเองไปใช้ให้ปรากฏอยู่ในทะเบียนสมาชิกของพรรคการเมือง และยังมีอีกจำนวนมากที่มีชื่ออยู่หลายพรรคการเมือง เพราะ ไปรับเงินเขามาและเอาสำเนาบัตรประชาชนให้เขาไปสมัครโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งในเรื่องของ “การปฏิรูปสมาชิกพรรคการเมือง” จึงเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการเมือง ที่ให้การเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะการที่จะให้มีการปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้ จึงต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองด้วยความตั้งใจและสมัครใจอย่างแท้จริง

โดยสรุปแล้ว ตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 แม้จะมีบทเฉพาะกาลตามมาตรา 140 ที่ให้พรรคการเมืองเดิม คงมีสมาชิกเดิมได้อยู่ต่อไป แต่ความเป็นสมาชิกเดิมของพรรคการเมืองดังกล่าว ยังคงต้องให้สถานะความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงความจริงโดยนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองก็จะต้องมีหน้าที่ในการแจ้งต่อ กกต. ตามมาตรา 25 ซึ่งหากนายทะเบียนสมาชิกของพรรคการเมืองจัดทําทะเบียนสมาชิกอันเป็นเท็จ หรือพรรคการเมืองใด แอบอ้างว่าผู้ใดสมัครเป็นสมาชิกของตนตามมาตรา 25 วรรคสาม ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี” ตามมาตรา 107

อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาความเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองของแต่ละพรรคกาเมืองข้างต้น และพรรคการเมืองเดิมที่ตั้งขึ้นมาก่อนแล้ว ก็คงต้องมีการตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องของความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตามมาตรา 25 อยู่แล้ว เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองทุกพรรค การรีเซ็ทสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มต้นไปพร้อมๆกันทุกพรรคการเมือง ก็น่าจะทำให้ประชาชนทั่วไปตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ก็จะเป็นการปฏิรูปการเมืองตามที่ตั้งใจไว้ และ ข้อมูลของนายทะเบียนสมาชิกของพรรคการเมือง ก็จะไม่ถูกกล่าวว่าทะเบียนสมาชิกเป็นเท็จ หรือพรรคการเมืองจะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าได้มีการแอบอ้างว่าผู้ใดสมัครเป็นสมาชิก อันเป็นความผิด ตามมาตรา 25 วรรคสาม ที่มาตรา 107 ได้กำหนดโทษไว้ให้จําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี/.

การรีเซ็ทหรือการปฏิรูปสมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองทุกพรรค และยังสร้างมิติใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ก็จะแก้ปัญหาให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมได้/.


ที่มา: Facebook เสรี สุวรรณภานนท์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.