Posted: 21 Apr 2018 09:44 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาคดี 'นาหวะ จะอื่อ' ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุน-ช่วยเหลือ 'ชัยภูมิ ป่าแส' ในการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 24 เม.ย. นี้

ในวันที่ 24 เม.ย. 2561 นี้ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานสอบสวนกล่าวหาว่านางนาหวะ จะอื่อ (ผู้ดูแลนายชัยภูมิ ป่าแส และนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่) เป็นผู้สนับสนุนและให้การช่วยเหลือชัยภูมิ ในการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยนาหวะถูกฟ้องคดีในข้อหาร่วมกันสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดและร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ และประมวลกฎหมายอาญา หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดโทษจำคุกประมาณ 15-16 ปี ค่าปรับประมาณ 500,000-1,000,000 บาท (โทษและค่าปรับที่มีอัตราสูง เนื่องจากจำเลยไม่ได้รับสารภาพ) โดยนาหวะนั้นได้ถูกจองจำมาเป็นเวลากว่า 328 วันแล้ว

สืบเนื่องจากวันที่ 29 พ.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, สถานีตำรวจภูธรนาหวาย และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมและตรวจค้น ที่หมู่บ้านกองผักปิ้ง หมู่ 13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งนำโดย พลตำรวจโท พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 5 และ พลตำรวจตรี ศรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ซึ่งไม่พบสิ่งเสพติดแต่อย่างใด หากแต่ได้มีการจับกุมคนในครอบครัวของนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ไปได้แก่ นางสาว นาหวะ จะอื่อ น้องสะใภ้ของนายไมตรีอีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้ให้การเลี้ยงดูและดูแลนายชัยภูมิ ป่าแส นอกจากนี้ยังได้มีการจับกุมนางสาวฉันทนา ป่าแส ซึ่งเป็นญาติของนายชัยภูมิ ป่าแส

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความทั้ง 2 คน ในข้อหา “ผู้สนับสนุนหรือให้การช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะการกระทำความผิด และสบคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบนั้น” ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางสาวนาหวะ จะอื่อ ไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรนาหวายและตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวฉันทนา ป่าแส ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย โดยเมื่อทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้นำตัวของทั้ง 2 คนนั้น ไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอทำการฝากขังผลัดที่ 1 ที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ โดยทางศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดหลักทรัพย์ในการประกันตัวถึง 2 ล้านบาท เนื่องจากเกรงว่าทั้ง 2 คนจะหลบหนี

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2560 ได้ครบกำหนดการฝากขังทั้ง 7 ผัด (84 วัน) โดยทางพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการฟ้องร้องดำเนินคดีนางสาวนาหวะ จะอื่อ และนางสาวฉันทนา ป่าแส ต่อในข้อหาดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยทันที อีกทั้งยังได้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าทั้ง 2 นั้นจะทำการหลบหนี ทางญาติของนางสาวนาหวะ จะอื่อ ได้ทำการยื่นขอกองทุนยุติธรรม เพื่อที่จะนำมาใช้ในการประกันตัวในชั้นของการพิจารณาคดีในชั้นศาล กองทุนยุติธรรมได้อนุมัติเงินประกันตัวสองล้านบาทในวันที่ 22 ส.ค. 2560 และได้ส่งเงินเพื่อส่งมาที่สำนักยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอประกันตัวในวันที่ 16 พ.ย. 2560 แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ที่ผ่านมานั้นนางสาวนาหวะ จะอื่อ เป็นทั้งหนึ่งที่ให้การดูแลและเลี้ยงดูนายชัยภูมิ ป่าแส มาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มรักษ์ลาหู่ ที่ทำกิจกรรมกับกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่หมู่บ้านกองผักปิ้ง ผ่านทางงานศิลปะ ดนตรี และวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเยาวชนในพื้นที่นั้น ห่างไกลจากการใช้สารเสพติด อีกทั้งยังมีการทำการรณรงค์ในเรื่องของการได้มาซึ่งสัญชาติ ของพี่น้องชนเผ่าในพื้นที่สูง นางสาวนาหวะ จะอื่อ เป็นหนึ่งในผู้ที่ทำงานเพื่อสังคมและเพื่อสิทธิของกลุ่มพี่น้องชนเผ่าหรือชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดนในประเทศไทย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.