Posted: 28 Apr 2018 10:18 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงาน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ 'ให้บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ยุติการละเมิดสิทธิแรงงานและสนับสนุนทวงคืนความยุติธรรมให้สหภาพแรงงาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย' โดยระบุว่าตามที่สหภาพแรงงาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย มีหมายข่าวจะเดินทางยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย : เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้สหภาพแรงงาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย : และบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทุนอเมริกาต้องยุติการละเมิดสิทธิแรงงานในประเทศไทย โดยในวันที่ 1 พ.ค. 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 นาฬิกา ณ หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เนื่องจาก 5 ปีที่ผ่านมาสมาชิกสหภาพแรงงาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ถูกนายจ้างกระทำการละเมิดและไม่เคารพสิทธิแรงงาน และการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ตลอดจนไม่เคารพสิทธิในการรวมกลุ่มกันเป็นสหภาพแรงงานฯ ของลูกจ้างในบริษัทฯ ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นธรรม การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม การเลือกปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ลูกจ้างถูกปรับลดเงินเดือนเหลือเพียงอัตราค่าแรงขั้นต่ำ การตัดสวัสดิการลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ เพื่อไม่ให้ลูกจ้างสามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้ และคิดล้มล้างสหภาพแรงงานดังที่ปรากฏข่าวตามสื่อต่าง ๆ นั้น

สหภาพแรงงาน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย เห็นว่าการกระทำของนายจ้างต่อกรณีสหภาพแรงงานเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นการละเมิดสิทธิแรงานอย่างรุนแรง ชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง อีกทั้งกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ 2518 ซึ่งบัญญัติว่า “เมื่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับแล้ว ห้ามมิให้นายจ้าง ทำสัญญาจ้างแรงงานกับลูกจ้างขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง เว้นแต่สัญญาจ้าง แรงงานนั้นจะเป็นคุณแก่ลูกจ้างยิ่งกว่า”

ดังนั้นสหภาพแรงงาน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จึงขอสนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงาน เจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย โดยในวันที่ 1 พ.ค. 2561 สหภาพแรงงาน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย พร้อมส่งสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมทวงคืนความยุติธรรมให้สหภาพแรงงาน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย : ยุติการละเมิดสิทธิแรงงาน ณ. หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.