Posted: 24 Apr 2018 09:44 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
รองคณบดี คณะรัฐศาสตร์ฯ ม.พะเยา เรียกพบกลุ่มนักศึกษาที่เตรียมจัดกิจกรรมรัฐศาสตร์เสวนาในหัวข้อ 'บทบาทของนักเรียน นิสิตและนักศึกษาไทย ในการจัดการศึกษาสังคมและการพัฒนาประเทศ' ระบุได้รับสายตรงจาก 'ผู้ใหญ่' ไม่อยากให้กิจกรรมเสวนาที่จัดขึ้นมี 3 นักศึกษาในรายชื่อผู้ร่วมเสวนาที่มีการเผยแพร่ เข้าร่วมในกิจกรรม ก่อนสรุปไม่ให้จัดกิจกรรมเสวนาเลย
24 เม.ย.2561 ผู้สื่ข่าวรายงานว่า วานนี้ (23 เม.ย.61) ยามารุดดิน ทรงศิริ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง หนึ่งในวิทยากรที่จะพูดในเสวนาหัวข้อ “บทบาทของนักเรียน นิสิตและนักศึกษาไทย ในการจัดการศึกษาสังคมและการพัฒนาประเทศ” โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า คณะผู้จัดเสวนารัฐศาสตร์วิชาการ ได้โทรหาตนในฐานะหนึ่งในวิทยาการในการเสวนาว่า ทหารได้ทำการติดต่อมายังทางคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา และให้ขอให้ทางคณะและผู้จัดโครงการเปลี่ยนตัววิทยากรที่จะมาพูดในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ทั้ง 3 คน
สำหรับเสวนาดังกล่าว ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเพิ่มเติมว่า จัดโดยกลุ่มนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา โดยวิทยากรนอกจาก ยามารุดดิน แล้ว ยังมี อภิบาล สมหวัง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้เผยแพร่เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานผ่าน ผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ “องค์การนิสิตรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา” แต่ภายหลังได้มีการลบภาพที่เผยแพร่นั้นออกไป
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเพิ่มเติมอีกว่า ชินภัทร หนึ่งในผู้ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 15.00 น.ตนเองและเพื่อนนักศึกษาในสาขารัฐศาสตร์ที่ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาดังกล่าว ได้รับการติดต่อจากรองคณบดีคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมเสวนาที่จะจัดขึ้น เมื่อนายชินภัทรไปถึงยังห้องประชุมสาขารัฐศาสตร์ ของคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ พบว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นกลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาประมาณ 10 คน, อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์จำนวน 4 คน, นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยพะเยา และรองคณบดีคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผู้นัดหมายการประชุมครั้งนี้
โดยในการประชุมมีการชี้แจงว่า รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์นั้น ได้รับสายตรงจาก “ผู้ใหญ่” ระบุว่า ไม่อยากให้กิจกรรมเสวนาที่จัดขึ้นเชิญนักศึกษาที่มีรายชื่อในการประชาสัมพันธ์ทั้ง 3 คน มาเข้าร่วมในกิจกรรมเสวนาครั้งนี้ จึงจัดการประชุมขึ้นเพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์ได้ปรึกษาหาทางออกเกี่ยวกับการปรับปรุงกิจกรรมเสวนา เมื่อได้ปรึกษากันแล้วทางกลุ่มนักศึกษาจึงได้ข้อสรุปว่า จะไม่เชิญนักศึกษาที่มีรายชื่อทั้ง 3 คน มาร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรมเสวนา แต่จะชักชวนมาในฐานะผู้เข้าร่วมฟังการเสวนาเท่านั้นได้หรือไม่ ด้านรองคณบดีไม่รับข้อเสนอดังกล่าว ระบุ นักศึกษาที่มีรายชื่อทั้ง 3 คน ต้องไม่มีส่วนในกิจกรรมใดๆ ของมหาวิทยาลัยพะเยาเลย
ทางกลุ่มนักศึกษาผู้จัดกิจกรรมเสวนาจึงได้ใช้เวลาปรึกษากันอีกครั้ง ก่อนจะยื่นข้อเสนอว่าจะยังคงจัดกิจกรรมเสวนาขึ้นและจะใช้นักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยพะเยาเป็นวิทยากรร่วมเสวนาบนเวที แต่ทางรองคณบดีแจ้งว่าหากนักศึกษาคนใดจะขึ้นเป็นวิทยากรในกิจกรรมเสวนาดังกล่าว ต้องมีการส่งรายชื่อให้กับทางมหาวิทยาลัยและเจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบ เพื่อขออนุญาตก่อน ทางกลุ่มนักศึกษาผู้จัดกิจกรรมจึงใช้เวลาในการปรึกษากันอีกครั้ง โดยรองคณบดี ระบุว่า “ผู้ใหญ่” ต้องการคำตอบเกี่ยวกับกิจกรรมเสวนาดังกล่าว ภายในเวลา 20.00 น. ของวันนี้ จึงให้นักศึกษาปรึกษากันอย่างเร่งด่วน ซึ่งต่อมาในตอนท้ายของการประชุมรองคณบดี คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ก็ได้ระบุว่า ไม่ให้มีการจัดกิจกรรมเสวนาเกิดขึ้นเลย ให้กลุ่มนักศึกษาทำการคิดกิจกรรมอื่นๆเข้ามาแทนที่ ก่อนจะทำการปิดประชุมในเวลาประมาณ 18.00 น.
ชินภัทรยังได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ทางกลุ่มนักศึกษาผู้จัดกิจกรรมเสวนาก็ได้ถูกนายกองค์การนักศึกษา ขอให้เปลี่ยนชื่อกิจกรรมเสวนา จาก “บทบาทนักศึกษากับการเมืองไทย” มาเป็น “บทบาทของนักเรียน นิสิตและนักศึกษาไทย ในการจัดการศึกษา สังคมและการพัฒนาประเทศ” แล้วครั้งหนึ่งด้วย
สำหรับ ชินภัทร นั้น เขาหนึ่งในผู้ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาในครั้งนี้ เคยถูกเจ้าหน้าที่สันติบาลบุกเยี่ยมบ้าน ด้วยเหตุว่า ชินภัทร เคยได้ขึ้นเวทีคนอยากเลือกตั้งตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และนักศึกษาอีก 2 ราย ที่มีรายชื่อเป็นผู้เข้าร่วมในกิจกรรมเสวนาในครั้งนี้ เป็นนักศึกษาที่เคยออกมามีส่วนร่วมในกิจกรรมคนอยากเลือกตั้ง และการวิพากษ์วิจารณ์สังคมจนเป็นที่รู้จักอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น