Posted: 26 Apr 2018 06:12 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ประธาน กก.สอบข้อเท็จจริงคลิปเสียงพาดพิง 'ประยุทธ์' กรณีสรรหา กสทช.ระบุ รู้ผลสอบภายใน 22 พ.ค.นี้ ใช้นิติวิทยาศาสตร์หาความเชื่อมโยงเหตุการณ์ 'อภิสิทธิ์' ห่วงปมใช้ ม.44 ระงับสรรหา แนะเร่งสร้างความโปร่งใส 'จาตุรนต์' ชี้ทำลายความเป็นอิสระ ข้องใจอ้างกฎหมายมีปัญหาแล้ว อยู่ตั้ง 4 ปีทำไมไม่แก้


26 เม.ย.2561 ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงพาดพิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าไม่พอใจกับรายชื่อผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ กสทช. ชุดใหม่

วันนี้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า การประชุมนัดแรกในวันนี้ (26 เม.ย. 61) จะมุ่งเน้นการตรวจสอบที่มาของคลิปเสียงดังกล่าวว่าเป็นคลิปเสียงจริงหรือมีการตัดต่อหรือไม่ ซึ่งเหตุผลที่ต้องตรวจสอบเนื่องจากการประชุมแต่ละครั้งเป็นความลับ ดังนั้นเมื่อมีคลิปเสียงออกมาจะส่งผลกระทบต่อการประชุม สนช. ในอนาคตได้ ทั้งนี้มีกรอบการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้จะใช้หลักทางนิติวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงเหตุการณ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพยายามหาบุคคลที่เป็นผู้นำคลิปเสียงดังกล่าวมาเผยแพร่ แต่จะเอาผิดบุคคลดังกล่าวได้หรือไม่ต้องดูเจตนา ความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อกฎหมายที่จะเอาผิดได้ ตลอดจนผลการหารือของคณะกรรมการฯ ที่จะเกิดขึ้นด้วย เช่นเดียวกับกรณีของสื่อมวลชนที่นำคลิปมาเผยแพร่ต้องตรวจสอบถึงเจตนาในการเผยแพร่เช่นเดียวกัน


ส่วนกรณีที่ถูกพาดพิงว่าเป็นหนึ่งในเสียงที่ปรากฏในคลิปนั้น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เสียงของตนอย่างแน่นอน เพราะไม่ได้ร่วมเป็นกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ และไม่ได้แสดงความเห็นในที่ประชุม สนช. พร้อมกับปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะมีการฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาหรือไม่ โดยเชื่อว่าข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง และปัจจุบันสามารถพิสูจน์เสียงทางวิทยาศาสตร์ได้

'อภิสิทธิ์' ห่วงปมใช้ ม.44 ระงับสรรหา แนะเร่งสร้างความโปร่งใส

ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการใช้มาตรา 44 ระงับการสรรหา กสทช. ว่า ถือเป็นปมที่น่าเป็นห่วง เพราะเรื่องของความเป็นอิสระของ กสทช.จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทีนี้พอก็มาเจอปัญหานี้ ซึ่งเคยเจอกับเรื่อง กกต.มาแล้วครั้งหนึ่งว่า มันเกิดอะไรขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในการสรรหา แล้วกำหนดกติกาเกี่ยวกับองค์กรอิสระเหล่านี้ ความจริงรัฐธรรมนูญก็ดี กฎหมายลูกก็ดี พวกท่านเขียนขึ้นมาเองกันทั้งนั้น แต่ทำไมกระบวนการสรรหาขณะนี้ล้มเหลว ตอนนี้ กกต.ก็ต้องมาทำอีกรอบ แล้ว กสทช.นี้หนักกว่าอีกก็คือว่า พอสรรหาล้มเหลวเสร็จ ขณะนี้มีการใช้มาตรา 44 มาบอกระงับการสรรหาไว้ก่อน แต่ไม่ระบุให้ชัดว่าที่ระงับไปนี้ แล้วปัญหาที่จะต้องแก้นั้นคืออะไรให้เกิดความโปร่งใส แล้วก็มาจังหวะที่ไม่ค่อยดีอีก เพราะว่าพอตอนที่มันมีการล้มไป ก็เกิดปัญหาเรื่องคลิปเสียง แล้วก็ไปกล่าวหากันว่า เป็นเพราะว่าผู้นำไม่พึงพอใจ ก็เลยต้องสรรหาใหม่ แล้วก็ยังมีข่าวลือเสียอีกว่าบุคคลซึ่งอยู่ในแวดวง กสทช.ขณะนี้จะเตรียมตัว หรือผู้มีอำนาจอยากเตรียมตัวให้เข้ามาต่อไป แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นระงับทุกอย่างแล้วก็บอกว่าคนเก่าทำงานไปก่อน มันก็เลยดูไม่ค่อยงาม แล้วก็น่าเป็นห่วงด้วย

'จาตุรนต์' ชี้ทำลายความเป็นอิสระ ข้องใจอ้างกฎหมายมีปัญหาแล้ว อยู่ตั้ง 4 ปีทำไมไม่แก้

ด้าน จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊คถึงกรณีนี้ด้วยว่า การที่ คสช.ออกคำสั่งล้มการสรรหาและกำหนดแนวทางดูแลทีวีดิจิตอล เป็นการรวมศูนย์ กำหนดความเป็นไปและการตัดสินใจของ กสทช.ไว้ในมือของ คสช. โดยเฉพาะหัวหน้า คสช.ตามลำพัง การออกคำสั่งเช่นนี้ เป็นเหมือนบทสรุปที่ คสช.ได้กระทำต่อ กสทช. คือ ยึดเอาอำนาจทุกอย่างไปจาก กสทช.จนไม่เหลือสภาพของการเป็นองค์กรอิสระ ที่ควรจะวางตัวเป็นกลาง และมีหน้าที่ดูแลให้เกิดการกระจายการใช้คลื่นความถี่ ซึ่งเป็นทรัพยากรส่วนรวมของชาติ ให้เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในสังคมให้มากที่สุด</p>

"ความจริง คสช.ได้ทำลายความเป็นอิสระของ กสทช.จนเกือบไม่เหลืออะไรมานานแล้ว เช่น ออกคำสั่งกำหนดการใช้จ่ายเงินรายได้จากการประมูลเสียเอง และให้โอนเงินรายได้ที่เหลือเข้าคลัง การแทรกแซง กสทช.ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งการทำให้ กสทช.กลายเป็นเครื่องมือในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ด้วยการสั่งปิดทีวีหรือวิทยุที่เห็นว่าขัดคำสั่ง คสช.ตามอำเภอใจและเลือกปฏิบัติ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ กสทช.พึงกระทำเลย" จาตุรนต์ โพสต์

จาตุรนต์ โพสต์ด้วยว่าการออกคำสั่งครั้งล่าสุดนี้ นอกจากทำให้ กสทช.จะต้องอยู่ต่อไปอย่างไม่มีอนาคต และไม่มีหน้าที่รับผิดชอบที่เป็นแก่นสารแล้ว ยังมีการดูแลทีวีดิจิตอลที่ทำให้เกิดการได้หรือเสียผลผระโยชน์มหาศาลของบริษัทเอกชน ซึ่งแทนที่จะให้ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในการรักษาผลผระโยชน์ของประเทศและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การรับผิดชอบทั้งหมดกลับกลายเป็นของ คสช.ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่ไม่มีใครตรวจสอบถ่วงดุลได้ หรือแม้แต่จะวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ได้ จึงไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดการเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องกันมากน้อยเพียงใด ส่วนที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษา คสช. ออกมาแก้ต่างให้ คสช.ในเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะกฎหมาย กสทช.มีปัญหานั้น ต้องถามว่าอยู่กันมาจะ 4 ปีแล้ว ไปทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่แก้ไขเสีย และในครั้งนี้ทำไมจึงไม่เลือกวิธีแก้กฎหมายแทนที่จะออกคำสั่งที่เป็นการทำลายระบบเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่ของประเทศ และกำลังทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก



ที่มา : เว็บไซต์ข่าวรัฐสภา แนวหน้า และไทยรัฐออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.