แฟ้มภาพ

Posted: 26 Apr 2018 04:04 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

วันกรรมกรสากลนี้ สหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส เตรียมร้องเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ควบคุมและดูแลนักลงทุนยุติการละเมิดสิทธิและเคารพต่อสิทธิแรงงาน รวมทั้งเคารพสิทธิในการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงาน

26 เม.ย.2561 ความคืบหน้ากรณีปัญหาข้อพิพาทแรงงานระหว่างสหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย กับ บริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถาม บุญยืน สุขใหม่ ผู้ประสานงานกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก และกรรมการบริหารสมัชชาคนจนฝ่ายกฎหมายแรงงาน เปิดเผยว่า วันที่ 1 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งเป็นวันกรรมกรสากล สหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส มีกำหนดว่าจะเข้ายื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้สหภาพแรงงานเจอเนอรัลมอเตอร์ส และเรียร้องให้สหรัฐอเมริกาต้องยุติการละเมิดสิทธิแรงงาน


บุญยืน กล่าวว่าจะเป็นการยื่นข้อเรียกร้องผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย 2 ฉบับ ฉบับแรกยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาควบคุมและดูแลนักลงทุนจากประเทศของตนให้ยุติการละเมิดสิทธิและเคารพต่อสิทธิแรงงาน รวมทั้งเคารพสิทธิในการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงาน ในกรณีสหภาพแรงงาน เจอเนอรัลมอเตอร์ ประเทศไทย และติดตามทวงถามความคืบหน้าถึงหนังสือร้องเรียนการละเมิดสิทธิแรงงาน พร้อมบทลงโทษ ที่เคยได้ร้องเรียนเมื่อเดือนมี.ค. 2556 จากเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

อีกฉบับยื่นหนังสือผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ถึงบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์สสหรัฐอเมริกา สำนักงานใหญ่ เพื่อให้รับทราบปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจากการกระทำของบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์สสหรัฐอเมริกา ตลอดจนให้เร่งแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานที่เกิดขึ้น แสดงความรับผิดชอบจากการกระทำของบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อให้ยุติการละเมิดและให้เคารพสิทธิแรงงาน เคารพสิทธิในการรวมกลุ่มกันเป็นสหภาพแรงงานโดยเร็ว

บุญยืน กล่าวว่า จึงเป็นการตามเรื่องเก่าและแก้ปัญหาเรื่องใหม่

สำหรับปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานของคนงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส เครือข่ายกู๊ดอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย ได้สรุปไว้ว่า กรณีดังกล่าวมีปัญหาข้อพิพาทแรงงานที่ไม่สามารถตกลงกันได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2556 และนายจ้างใช้สิทธิปิดงาน (งดจ่ายจ้าง) เฉพาะพนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานกว่า 300 คน จนเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2560 สมาชิกสหภาพแรงงานจำนวน 72 คน ทนต่อสภาวะเศรษฐกิจไม่ไหว จึงรับข้อเรียกร้องของนายจ้างทั้งหมดเพื่อขอกลับเข้าทำงาน แต่นายจ้างกลับไม่ให้สมาชิกสหภาพแรงงานเข้าทำงานแต่อย่างใด สมาชิกสหภาพแรงงาน พร้อมกับประธานและเลขาธิการสหภาพแรงงาน รวมทั้งหมด 72 คน จึงยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ครส.) เรื่อง การกระทำอันไม่เป็นธรรม ซึ่งต่อมา ครส.มีคำสั่งให้บริษัทฯ รับสมาชิกสหภาพแรงงาน 70 คนกลับเข้าทำงานพร้อมจ่ายค่าเสียหายนั้น

บริษัทฯ จึงเรียกพนักงานทุกคนให้ไปรายงานตัวเพื่อกลับเข้าทำงานที่สนามกอล์ฟ พัฒนากอล์ฟคลับ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2561 ทั้งยังยื่นชุดข้อเสนอให้พนักงานพิจารณา และยื่นหนังสือคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานที่คลังสินค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยปรับลดค่าจ้างเหลือเพียงค่าจ้างขั้นต่ำ 9,600 บาท ตัดสวัสดิการทั้งหมด และลดตำแหน่งความรับผิดชอบ โดยมอบหน้าที่ใหม่ให้ไปขูดสีตีเส้นบริเวณพื้นของคลังสินค้าดังกล่าว เป็นแรงงานไร้ฝีมือ โดยสั่งให้เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2561

คำสั่งของนายจ้างข้างต้น ทำให้พนักงานหลายคนวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะต้องแยกกันอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดระยองและใกล้เคียง พนักงานส่วนใหญ่จึงตัดสินใจไม่เดินทางไปตามคำสั่งของนายจ้าง และต้องยอมลาออกไปเองเพราะไม่สามารถทนทำงานในสถานที่ทำงานแห่งใหม่และสภาพการจ้างานใหม่ได้ เหลือพนักงานที่สามารถเดินทางไปทำงานที่คลังสินค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพียง 9 คน

เครือข่ายกู๊ดอิเล็กทรอนิกส์ฯ ชี้ว่า ผลกระทบจากคำสั่งของนายจ้างถือเป็นการกลั่นแกล้งพนักงาน ให้ไม่สามารถทนทำงานต่อไปได้ เป็นการละเมิดกฎหมายแรงงาน สิทธิมนุษยชน และมีเจตนาทำลายสหภาพแรงงานอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ พนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานทั้ง 9 คนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากรายได้ลดลงและไม่สามารถดูแลลูกและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามฉุกเฉิน รวมทั้งมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ในจำนวนพนักงาน 9 คนมีพนักงานหญิง 1 คนที่ต้องเดินทางไปทำงานร่วมกับพนักงานชาย 8 คน ต้องเสาะหาที่พักเพียงลำพัง ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานหญิง ทั้งยังเป็นการกดขี่ทางเพศอย่างรุนแรง

[right-side]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.