Posted: 24 Apr 2018 01:24 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา โพสต์ถาม มหา'ลัยราชภัฏเชียงใหม่ สร้างวิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก เนื้อที่ 6,235 ไร่เศษ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีเคยได้ยินข่าวว่าผู้ใดคัดค้านหรืออ้างว่ารุกล้ำ"ป่า"

24 เม.ย.2561 กรณีกระแสคัดค้านโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการบริเวณเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ นั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค 'Chuchart Srisaeng' แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องโครงการบ้านพักตุลาการดังกล่าว โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่สภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ เรื่องโครงการบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ อ้างว่าพื้นที่ที่ใช้ก่อสร้างบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพรุกล้ำป่าที่สมบูรณ์มาก สภาคณาจารย์ฯ ไม่เห็นด้วยและขอให้คืนป่าโดยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปโดยเร็วนั้น

ท่านอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงฟังเป็นข้อยุติได้ว่า พื้นที่ที่ใช้ก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และก่อสร้างบ้านพักตุลาการมีเนื้อที่ 147 ไร่เศษ อยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นที่ดินที่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง(น.ส.ล.) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 ตรี จึงไม่ได้เป็นป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 4(1)

มีเอกสารของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ยืนยันชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ซึ่งมีเนื้อที่ 6,235 ไร่เศษ ก่อสร้างอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ตามหลักฐานที่แนบมาด้วยแล้ว หน่วยงานราชการเหมือนกัน ต้องการพื้นที่ก่อสร้างอาคารเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการเหมือนกัน ต่างกันเพียงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติไม่เหมือนกันเท่านั้น

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ก่อสร้างวิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก ใช้เนื้อที่มากถึง 6,235 ไร่เศษ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเป็นป่าตามกฎหมายได้ ไม่มีเคยได้ยินข่าวว่าผู้ใดคัดค้านหรืออ้างว่ารุกล้ำ"ป่า" มีเพียงข่าวว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ใช้สโลแกนว่า "มหาวิทยาลัยในป่า" เท่านั้น
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา โพสต์ต่อว่า สำนักงานศาลยุติธรรม ก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ ใช้เนี้อที่เพียง 147 ไร่เศษ หรือประมาณร้อยละ 2.36 ของเนื้อที่ที่ใช้ก่อสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก เท่านั้น ทั้งอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย แต่มีผู้คัดค้านซึ่งรวมทั้งสภาคณาจารย์ฯ โดยอ้างว่ารุกล้ำ"ป่า"

ถ้าสังคมไทยยังมีคนบางกลุ่มไม่ยึดถือกฎเกณฑ์ที่มีอยู่มาใช้ตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่ใช้ความเพียงรู้สึกนึกคิด ความพอใจ ความรักใคร่ ความไม่พอใจ ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา หรือถ้าตนเองได้ประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ถูก แต่ถ้าตนเองไม่มีส่วนได้ประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ผิด สังคมไทยก็ต้องมีเรื่องวุ่นวายเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ตลอดกัลปาวสาน

[right-side]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.