Posted: 17 Dec 2018 09:09 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Tue, 2018-12-18 00:09


หมอเหวง ไทยรักษาชาติ ตั้งคำถามหลัง ดอน ปรมัตถ์วินัย ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ไทยไม่จำเป็นต้องเปิดให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ระบุถ้ารัฐบาล คสช. ไม่คิดจะคดโกงจะกลัวอะไร ส่วนรองโฆษกประชาธิปัตย์ถาม รัฐบาลซ่อนอะไรไว้ใต้พรม

17 ธ.ค. 2561 ไทยโพสต์ออนไลน์ รายงานว่า นพ.เหวง โตจิราการ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กล่าวถึงกรณี ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ระบุไม่อยากให้ต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ เลือกตั้งว่า ถ้ารัฐบาลไม่คิดคดโกงการเลือกตั้งจะกลัวอะไร การที่องค์กรต่างชาติเข้ามาสังเกตการยิ่งเป็นการประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีงามของการเลือกตั้งในประเทศไทยให้ชาวโลกได้รับรู้ แต่การไม่ให้เขาเข้ามาเช่นนี้แสดงว่ากำลังคิดโกงอยู่ใช่หรือไม่ สะท้อนถึงความเอาเปรียบในการเลือกตั้งอย่างมาก ทั้งการให้บัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้พรรค การที่มาตรา 44 ยังมีผลบังคับใช้อยู่ระหว่างเลือกตั้ง และไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรชื่อนายกฯก็ยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.เช่นเดิม เนื่องจากมีส.ว.รอยกมือสนับสนุนจึงกลัวว่าเขาจะเอาไปประจานใช่หรือไม่

"ส่วนที่นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่านายสมศักดิ์ จองซื้อเฮลิคอปเตอร์ เพื่อตรวจงานในตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ว่า การพูดเช่นนี้เท่ากับตอกย้ำว่าพวกเขามั่นใจในชัยชนะในการเลือกตั้งแน่นอน จนถึงขั้นล็อกเก้าอี้รัฐมนตรีได้เลยแบบนี้ถือเป็นการดูถูกการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนใช่หรือไม่"

ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ศิริภา อินทรวิเชียร รองโฆษก ปชป. ฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า รัฐบาลควรเปิดให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งของประเทศไทย เพราะขนาดประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง กัมพูชา ยังเปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ และไม่มีประเทศไหนที่เป็นประชาธิปไตยแล้วมาสกัดกั้นการสังเกตการณ์ขององค์กรต่างชาติ เว้นเสียแต่ประเทศซีเรีย และ ลิเบีย ที่สถานการณ์เฉพาะกาลเท่านั้น ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไม่ต้องการให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์มีอะไรซ่อนไว้ใต้พรมหรือไม่ ถึงไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามา ดังนั้น ถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจก็ควรเปิดกว้างให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพื่อจะทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรม และเป็นการยอมรับในเวทีโลก

เชาว์ มีขวด รองโฆษก ปชป. ฝ่ายกฎหมายและมวลชนสัมพันธ์ แถลงว่า ขณะนี้มีการใช้วิธีเอาเปรียบของพรรครัฐบาล กับพรรคการเมืองบางพรรค ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล โดยอาศัยโอกาสที่คนในรัฐบาลที่เป็นสมาชิกบางพรรคจัดทำโครงการที่คล้ายคลึงกัน เช่น แจกบัตรคนจน โดยรัฐบาลให้คนในพรรคการเมืองดังกล่าวไปช่วยแจกอย่างโจ๋งครึ่มในต่างจังหวัด โดยผ่านช่องทางของผู้นำชุมชน มีการรวบรวมบัตรประชาชนเพื่อล่ารายชื่อ และกดดันให้เลือกพรรคการเมืองบางพรรค เพื่อให้ได้ตามเป้าประสงค์ และผลประโยชน์บางประการ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า มีบางพรรคอาศัยเอาทรัพย์สินราชการไปแจกจ่ายให้ผู้นำชุมชนผ่านหัวคะแนน เช่น พื้นที่ กทม. มีการนำถังขยะของ กทม. ไปแจกตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมา กทม. อ้างว่าไม่มีงบจัดซื้อ แต่อาศัยช่วงใกล้เลือกตั้ง กลับเอาถังขยะไปแจก โดยผ่านตัวแทนผู้สมัครบางพรรค รวมถึงยังพบมีการซื้อเสียงล่วงหน้าอย่างชัดเจนในบางพื้นที่ โดยผู้สมัครบางพรรคอาศัยช่องทาง และมีรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจ
“พรรคประชาธิปัตย์ กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กกต. ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งให้สุจริตโปร่งใสโดยตรง จึงขอเรียกร้องให้ กกต. มาดูแลเรื่องนี้ แม้จะอ้างว่าไม่มี พ.ร.ฎ. ว่าด้วยการเลือกตั้ง แต่เป็นหน้าที่ในการที่จะทำและบริหารจัดการให้ยุติธรรมตามระบบประชาธิปไตยเพื่อให้นานาชาติยอมรับ” รองโฆษก ปชป. กล่าว

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.