Posted: 17 Dec 2018 03:50 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-12-17 18:50
สธ. สปสช.ลงพื้นที่บ้าน “น้องแมน” เด็กชายขายไข่นกที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ที่ป่วยตาเป็นฝ้าแต่ไม่ไปรักษาตามนัด ด้วยเหตุกลัวการผ่าตัด และคิดว่าบัตรทองหมดอายุ ล่าสุดประสานส่งต่อรักษาต่อเนื่อง พร้อม อบต.ในพื้นที่ช่วยเหลือด้านสังคม
17 ธ.ค.2561 ตามที่มีการนำเสนอเรื่องราวของเด็กชายขายไข่นกที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช โดยใช้ชื่อว่า “น้องแมน” ผ่านโลกโซเชียล ซึ่งมีอาการตาเป็นฝ้า โดยมีการระบุหนึ่งในสาเหตุที่น้องแมนไม่ไปหาหมอรักษาเพราะบัตรหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองหมดอายุ และ สปสช.ได้ชี้แจงว่าเป็นสวัสดิการสุขภาพเพื่อคนไทยไม่มีวันหมดอายุ นั้น
ธงชัย สุทธิยุโณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 11 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก อุทัย หมั่นเทียนติพันธ์ ผอ.สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ให้ติดตามดำเนินการเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.61 จึงได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูลและประสานการให้ความช่วยเหลือที่บ้านของน้องแมน อายุ 12 ปีอาศัยอยู่กับมารดา (บิดาแยกทางกัน) ที่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าตาขวา มีอาการม่านตาขยาย ประมาณ 5 มิลลิเมตร ไม่ตอบสนองต่อแสง สายตาพร่ามัว มองตัวหนังสือปกติไม่ชัด ส่วนตาข้างซ้ายมีฝ้าที่กระจกตา รูม่านตาประมาณ 2 มิลลิเมตร มองเห็นเลือนราง เมื่อประมาณ 1 ปี เคยเข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แพทย์ให้ยาหยอดตา และให้มารักษาสม่ำเสมอถ้าไม่หายแนะนำให้ผ่าตัด แต่น้องแมนไม่ได้ไปตามนัดเพราะกลัวการผ่าตัดและไม่มีใครดูแลแม่ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกด้านซ้าย
ธงชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของน้องแมนพบว่ามีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง ที่ รพ.สต.บ้านบางปู ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา และมี รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชเป็นหน่วยรับส่งต่อ ส่วนมารดามีสิทธิหลักประกันสุขภาพเช่นกัน ประเภทคนพิการ (ท 74) โดย รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็น รพ.ใกล้บ้าน ได้แนะนำมารดาและน้องแมนให้ไปรักษาต่อเนื่อง หากปล่อยไว้อาจทำให้ตาบอดได้ ทั้งนี้ทาง รพ.สต.บ้านบางปู ได้นัดตรวจตาเบื้องต้นอีกครั้งในวันนี้ (17ธ.ค.61) และจะดำเนินการส่งต่อไปรักษา รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งมีจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ทั้งได้ประสานงานกับ อบต.ท่าศาลา ซึ่งมีกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับตำบลเพื่อช่วยเหลือดูแลด้านสังคม และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อประสานงานข้อมูลระหว่างกันต่อไป
สปสช.แจง 'สิทธิบัตรทองไม่มีหมดอายุ'
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และในฐานะโฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวชี้แจงว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทองเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทยทุกคน โดยประชาชนทุกคนจะได้รับสิทธิตั้งแต่แรกเกิด เมื่อมีการแจ้งเกิดและลงทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและได้รับสิทธิดังกล่าวดูแลไปจนตลอดชีวิต ยกเว้นกรณีผู้ที่มีหลักประกันสุขภาพอื่นรองรับ อาทิ ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เป็นต้น โดยผู้มีสิทธิสามารถเข้ารับบริการยังหน่วยบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการประจำ ทั้งนี้สิทธิบัตรทองที่ประชาชนได้รับนี้ไม่มีการกำหนดวันหมดอายุ เนื่องจากเป็นสวัสดิการจากรัฐบาลเพื่อดูแลประชาชนด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนทุกคนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขภายใต้สิทธิประโยชน์บัตรทอง
อย่างไรก็ตามกรณีนี้อาจเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากในช่วงแรกของการดำเนินโครงการบัตรทองได้มีการออกบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับประชาชนเพื่อแสดงสิทธิในการเข้ารับบริการ โดยรายละเอียดในบัตรมีการระบุถึงวันบัตรหมดอายุ แต่จากการพัฒนาระบบสาระสนเทศและมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับบัตรประชาชนแล้ว บัตรดังกล่าวจึงได้ยกเลิกไป โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการเข้ารับบริการ และในกรณีที่เป็นเด็กใช้เพียงสูติบัตรหรือใบเกิดเท่านั้น
“กรณีของน้องแมนจึงไม่ใช่บัตรทองหมดอายุและสามารถเข้ารับการรักษาได้ยังหน่วยบริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ซึ่ง สปสช.ขอชี้แจงและทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน เพราะหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน” โฆษก สปสช. กล่าว
แสดงความคิดเห็น