อียูระดมกำลังช่วยเหลือผู้อพยพจากเรืออับปางก่อนถึงฝั่งอิตาลี คาดมีผู้เสียชีวิตถึง 100 คน
วันนี้ 27 พ.ค. กองทัพเรือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งจากลักเซมเบิร์ก สเปน และอิตาลี ซึ่งเข้าร่วมในปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ “อียู แนฟฟอร์ เมด” ระดมกำลังเครื่องบินและเรือลาดตระเวน ช่วยเหลือผู้อพยพจากลิเบีย ซึ่งประสบเหตุเรืออับปางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก่อนถึงฝั่งอิตาลีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้อพยพ 77 รายได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพเรืออียูและถูกนำตัวขึ้นฝั่งอิตาลี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุในทะเลประมาณ 65 กิโลเมตร และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิตาลีพบศพผู้อพยพแล้ว 5 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายอีกประมาณ 100 ราย
วันนี้ 27 พ.ค. กองทัพเรือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งจากลักเซมเบิร์ก สเปน และอิตาลี ซึ่งเข้าร่วมในปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ “อียู แนฟฟอร์ เมด” ระดมกำลังเครื่องบินและเรือลาดตระเวน ช่วยเหลือผู้อพยพจากลิเบีย ซึ่งประสบเหตุเรืออับปางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก่อนถึงฝั่งอิตาลีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้อพยพ 77 รายได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพเรืออียูและถูกนำตัวขึ้นฝั่งอิตาลี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุในทะเลประมาณ 65 กิโลเมตร และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิตาลีพบศพผู้อพยพแล้ว 5 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายอีกประมาณ 100 ราย
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้อพยพทางเรือจากลิเบียเกือบ 6,000 คนได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเมื่อวันพุธ 25 พ.ค. กองทัพเรืออิตาลีช่วยเหลือผู้อพยพขึ้นฝั่งได้ทั้งหมด 562 คน และช่วยเหลือเพิ่มได้อีก 2,600 คนในวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดถูกนำตัวไปขึ้นฝั่งที่เมืองปอร์โตเอ็มเปโดเกล บนเกาะซิซิลีของอิตาลี
นายฟลาวิโอ ดิ เจียโคโม โฆษกขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) แถลงว่าผู้อพยพที่รอดชีวิตส่วนใหญ่มาจากโมร็อกโก ขณะที่บางส่วนเป็นชาวตูนีเซียและชาวซีเรีย แต่ผู้รอดชีวิตให้สัมภาษณ์กับไอโอเอ็มว่าผู้สูญหายราว 100 รายอาจติดอยู่ในตัวเรือที่อับปางในทะเล
องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเปิดเผยว่าผู้อพยพใช้เส้นทางเดินเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากลิเบียมายังอิตาลี เป็นเส้นทางอพยพหลักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอียูเจรจาข้อตกลงกับตุรกีเรื่องการควบคุมจำนวนผู้อพยพที่ใช้เส้นทางผ่านทะเลอีเจียนไปขึ้นฝั่งที่กรีซ
นายฟลาวิโอ ดิ เจียโคโม โฆษกขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) แถลงว่าผู้อพยพที่รอดชีวิตส่วนใหญ่มาจากโมร็อกโก ขณะที่บางส่วนเป็นชาวตูนีเซียและชาวซีเรีย แต่ผู้รอดชีวิตให้สัมภาษณ์กับไอโอเอ็มว่าผู้สูญหายราว 100 รายอาจติดอยู่ในตัวเรือที่อับปางในทะเล
องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเปิดเผยว่าผู้อพยพใช้เส้นทางเดินเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากลิเบียมายังอิตาลี เป็นเส้นทางอพยพหลักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอียูเจรจาข้อตกลงกับตุรกีเรื่องการควบคุมจำนวนผู้อพยพที่ใช้เส้นทางผ่านทะเลอีเจียนไปขึ้นฝั่งที่กรีซ
แสดงความคิดเห็น