เอฟทีเอ ว็อทช์ จี้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผย-ทบทวนข้อมูลก่อนเสนอตัวเข้าร่วมทีพีพี
กระทรวงพาณิชย์หารือร่วมกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) และภาคประชาสังคมที่ติดตามเรื่องผลกระทบจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และเรื่องการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพี โดยฝ่ายประชาสังคมขอให้ผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศเปิดเผยข้อมูลและตัดสินใจโดยคำนึงถึงทั้งผลดีและผลเสีย ด้านตัวแทนกระทรวงพาณิชย์รับข้อห่วงกังวลไว้พิจารณา
น.ส. กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานเอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวกับบีบีซีไทย ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญกลุ่มฯ มาหารือ ในฐานะที่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และพบว่าที่ผ่านมารัฐไม่ได้รับฟังผลกระทบจากกลุ่มต่าง ๆ อย่างรอบด้าน
“จะต้องมีการชี้แจงในระดับนโยบายว่าหากไทยเข้าร่วมทีพีพี สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างหนึ่งก็คือการจำต้องยอมรับระยะเวลาผูกขาดตลาดยาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1-10 ปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเองประเมินว่า จะต้องเตรียมงบประมาณรองรับตั้งแต่ 2,835 – 288,266 ล้านบาทต่อปี แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของไทย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเตรียมการรองรับอย่างไร และหากเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับซึ่งสถาบันปัญญาภิวัฒน์ ศึกษาพบว่าจะทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น 0.77% เท่านั้น”
ทั้งนี้ เอฟทีเอ ว็อทช์ ได้เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ได้ทบทวนเรื่องนี้ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรม การนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในวันจันทร์หน้า นอกจากนี้จะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนเพื่อให้สังคมและแวดวงวิชาการได้ร่วมตรวจสอบ และในระหว่างนี้ให้หยุดกระบวนการแก้กฎหมาย ประกาศและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ฯลฯ เอาไว้ก่อน
ด้านนายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ทางกระทรวงฯ รับเรื่องที่เป็นข้อกังวลไว้พิจารณาทั้งหมด ส่วนจะนำเสนอต่อที่ประชุมกนศ.ในวันจันทร์หน้าหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจตอบได้ ‪#‎TPP‬
(ภาพประกอบจากคลังภาพ)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.