ครึ่งปีแรกคนไทยป่วยโรคตาแดงแล้วเฉียด 50,000 ราย สธ. เตือนระวังระบาดหนักในหน้าฝน
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) เผยสถิติผู้ป่วยโรคตาแดงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 23 พ.ค. 2559 พบผู้ป่วยแล้ว 47,410 ราย โดยจังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยมาก โดยเปรียบเทียบต่อประชากร 1 แสนคน ได้แก่ อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี , แม่ฮ่องสอน , ศรีษะเกษและสระบุรี และคาดว่าผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นตลอดฤดูฝนปีนี้
ทั้งนี้ รมว.สธ. กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะ เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันโรคตาแดง โดยเฉพาะตามโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการป่วยจากโรคนี้ โดยเฉพาะช่วงที่มีน้ำป่าไหลหลาก ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ขอให้ผู้ปกครองย้ำเตือนลูกหลานอย่าลงไปเล่นน้ำ เนื่องจากในน้ำท่วมขังจะมีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นดิน เช่น มูลสัตว์ต่างๆ ขยะปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก หากน้ำเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบและเป็นโรคตาแดงได้
ด้านนพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคตาแดง เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำสกปรกหรือฝุ่นละอองเข้าตาโดยตรงหรือติดมากับมือ เมื่อเชื้อโรคเข้าตาจะทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง มีขี้ตามาก หนังตาบวม ปวดตาหรือมองแสงจ้าไม่ได้ อาจเป็นข้างหนึ่งข้างใดหรือเป็นทั้ง 2 ข้าง โรคนี้ติดต่อกันจากการสัมผัสมากที่สุด ทั้งนี้ หากมีอาการปวดตารุนแรง ตาพร่ามัว หรืออาการตาแดงไม่ทุเลาภายใน 7 วัน ขอให้ไปรับการรักษากับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
สำหรับการปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคตาแดงคือ หากมีน้ำสกปรกเข้าตาควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกจากมือและห้ามใช้มือขยี้ตา และรักษาความสะอาดเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.