ที่ประชุมจี 7 ชี้ อังกฤษออกจากอียูจะกระเทือนอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) ออกแถลงการณ์ร่วมก่อนปิดการประชุมในญี่ปุ่นว่า หากการลงประชามติในอังกฤษในเดือนหน้านี้มีผลสรุปออกมาให้ประเทศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เรื่องนี้จะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่กระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เพราะจะส่งผลเสียต่อการค้า การลงทุน และการจ้างงานในตลาดโลก
ในการประชุมกลุ่มจี 7 ครั้งนี้ ที่ประชุมกำหนดให้การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในการรับมือกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลก ขณะเดียวกันก็เตือนเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหากอังกฤษถอนตัวออกจากอียูในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน พยายามผลักดันให้ประเทศยังคงอยู่ในอียูต่อไป ส่วนผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า คนในอังกฤษส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเป็นสมาชิกอียูต่อไป
ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า แถลงการณ์ร่วมก่อนปิดการประชุมของกลุ่มจี 7 ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะในการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 7 ก่อนหน้านี้ก็ได้ข้อสรุปในทำนองเดียวกัน แต่เรื่องที่น่าประหลาดใจก็คือการระบุถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเป็นวงกว้างหากอังกฤษถอนตัวออกจากอียู แต่อีกด้านนี่ก็เป็นเรื่องของความรู้สึกด้วย เพราะนักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน แต่ก็เหลือเวลาอีกเพียง 25 วันเท่านั้นก่อนที่อังกฤษจะลงประชามติ นักข่าวคาดว่าในช่วงเวลาที่เหลือจะมีการออกแถลงการณ์ในทำนองเช่นนี้อีกหลายฉบับ
นอกจากนี้ ที่ประชุมจี 7 ยังให้คำมั่นจะร่วมมือกันจัดการกับภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกอื่นๆ เช่น ภัยจากกลุ่มก่อการร้าย และจะร่วมมือกันดำเนินนโยบายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืนและสมดุล รวมทั้งยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกช่วยกันแก้วิกฤติผู้อพยพในยุโรป ขณะเดียวกันก็แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตทางทะเลในแถบทะเลจีนใต้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.