แก้ไขเนื้อหา 8.30 GMT
เขาแอทอส: ดินแดนต้องห้ามสำหรับสตรีเพศ
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางเยือนเขา “แอทอส” ในกรีซ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครอบรอบ 1,000 ปีที่นักบวชนิกายออร์โธด็อกซ์ของรัสเซียเข้าไปตั้งอารามที่ภูเขาแห่งนี้ ซึ่ง แอนดี วอล์กเกอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เนื้อที่ 335 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ อาจเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีกฎเหล็กห้ามมิให้ผู้หญิง หรือแม้แต่สัตว์เพศเมียย่างกรายเข้าไป
เขาแอทอส: ดินแดนต้องห้ามสำหรับสตรีเพศ
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางเยือนเขา “แอทอส” ในกรีซ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครอบรอบ 1,000 ปีที่นักบวชนิกายออร์โธด็อกซ์ของรัสเซียเข้าไปตั้งอารามที่ภูเขาแห่งนี้ ซึ่ง แอนดี วอล์กเกอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เนื้อที่ 335 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ อาจเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีกฎเหล็กห้ามมิให้ผู้หญิง หรือแม้แต่สัตว์เพศเมียย่างกรายเข้าไป
ผู้สื่อข่าวบอกว่า ผู้ที่ต้องการเยือนเขาแอทอสจะต้องยื่นสำเนาหนังสือเดินทางเพื่อทำเรื่องขออนุญาตเข้าไปยังเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ซึ่งในแต่ละวันจะจำกัดให้ผู้ชายที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ 100 คน และผู้แสวงบุญชายที่ไม่ใช่ชาวออร์โธด็อกซ์อีกเพียง 10 คน เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมและพำนักได้เป็นเวลา 3 คืนตามอารามที่มีอยู่ 20 แห่งบนภูเขาแห่งนี้
สำหรับกฎเหล็กที่ห้ามสตรีเพศเดินทางเข้าไปยังเขาแอทอส และห้ามเข้าใกล้ฝั่งเกิน 500 เมตร มีมานานกว่า 1,000 ปีแล้ว ดร.เกรแฮม สปีก ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Mount Athos: Renewal in Paradise บอกว่า กฎดังกล่าวถูกบัญญัติขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 10 เพื่อให้นักบวชถือพรหมจรรย์ ซึ่งกฎข้อนี้เองทำให้อารามบนเขาแอทอสแตกต่างไปจากอารามที่อื่น
นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าการห้ามสตรีเพศย่างกรายเข้าไปที่เขาแห่งนี้ เป็นเพราะครั้งหนึ่งพระแม่มารีทรงล่องเรือสู่ไซปรัส ทว่าระหว่างทางกระแสลมได้พัดเรือของพระองค์มาหยุดที่เขานี้ และพระองค์ทรงโปรดที่นี่มากถึงขั้นอธิษฐานต่อพระบุตรให้เขานี้เป็นสมบัติของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดร.สปีก กล่าวว่า ปัจจุบันเขาแอทอสยังคงถูกเรียกว่า “สวนของพระแม่” เพื่อสดุดีพระบารมีของพระแม่มารีและพระองค์ทรงเป็นตัวแทนของสตรีเพศเพียงผู้เดียวบนภูเขาแห่งนี้
ดร.สปีก บอกว่า กฎว่าด้วยสตรีเพศที่เข้มงวดทำให้ต้องนำอาหารที่ทำจากนมวัว รวมถึงไข่ไก่มาจากภายนอก เพราะไม่สามารถนำสัตว์เพศเมียเข้าไปเลี้ยงที่นี่ได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับสัตว์ป่าเพศเมียที่มีถิ่นอาศัยที่นี่ และแมวซึ่งทำหน้าที่เป็นนักจับหนูชั้นยอด นอกจากนี้ในช่วงหลังยังมีการผ่อนคลายกฎให้เด็กชายสามารถติดตามผู้ใหญ่เข้าไปแสวงบุญที่นี่ได้ด้วย
แม้จะมีกฎเหล็กแต่ในอดีตก็เคยมีผู้หญิงเข้าไปที่นี่ด้วยกันหลายครั้ง โดยในช่วงสงครามกลางเมืองกรีซในปี 2489-2492 เขาแอทอสเคยอนุญาตให้ครอบครัวชาวนาเข้าไปพักพิง และในปี 2496 เคยมีหญิงชาวกรีกคนหนึ่งปลอมตัวเป็นชายเข้าไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 วัน ส่งผลให้ทางการกรีซต้องออกกฎหมายห้ามสตรีเข้าไปที่เขาแอทอส และกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนด้วยโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน ล่าสุดในปี 2551 มีหญิงชาวมอลโดวา 4 คนถูกขบวนการค้ามนุษย์นำไปปล่อยทิ้งไว้ที่เขาแห่งนี้ พวกเธอถูกตำรวจควบคุมตัวเป็นเวลาสั้นๆ และได้รับการปล่อยตัวหลังได้รับการยกโทษจากเหล่านักบวช
สำหรับการเยือนของประธานาธิบดีปูตินครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่เขาเยือนโบสถ์ออร์โธด็อกซ์ของรัสเซียบนเขาแอทอส โดยการเยือนครั้งแรกในปี 2548 ผู้แสวงบุญส่วนใหญ่เป็นชาวกรีก แต่ปัจจุบันมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่ปีละ 40,000 คน และกว่าครึ่งเป็นชาวรัสเซีย
#athos
สำหรับกฎเหล็กที่ห้ามสตรีเพศเดินทางเข้าไปยังเขาแอทอส และห้ามเข้าใกล้ฝั่งเกิน 500 เมตร มีมานานกว่า 1,000 ปีแล้ว ดร.เกรแฮม สปีก ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Mount Athos: Renewal in Paradise บอกว่า กฎดังกล่าวถูกบัญญัติขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 10 เพื่อให้นักบวชถือพรหมจรรย์ ซึ่งกฎข้อนี้เองทำให้อารามบนเขาแอทอสแตกต่างไปจากอารามที่อื่น
นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าการห้ามสตรีเพศย่างกรายเข้าไปที่เขาแห่งนี้ เป็นเพราะครั้งหนึ่งพระแม่มารีทรงล่องเรือสู่ไซปรัส ทว่าระหว่างทางกระแสลมได้พัดเรือของพระองค์มาหยุดที่เขานี้ และพระองค์ทรงโปรดที่นี่มากถึงขั้นอธิษฐานต่อพระบุตรให้เขานี้เป็นสมบัติของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดร.สปีก กล่าวว่า ปัจจุบันเขาแอทอสยังคงถูกเรียกว่า “สวนของพระแม่” เพื่อสดุดีพระบารมีของพระแม่มารีและพระองค์ทรงเป็นตัวแทนของสตรีเพศเพียงผู้เดียวบนภูเขาแห่งนี้
ดร.สปีก บอกว่า กฎว่าด้วยสตรีเพศที่เข้มงวดทำให้ต้องนำอาหารที่ทำจากนมวัว รวมถึงไข่ไก่มาจากภายนอก เพราะไม่สามารถนำสัตว์เพศเมียเข้าไปเลี้ยงที่นี่ได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับสัตว์ป่าเพศเมียที่มีถิ่นอาศัยที่นี่ และแมวซึ่งทำหน้าที่เป็นนักจับหนูชั้นยอด นอกจากนี้ในช่วงหลังยังมีการผ่อนคลายกฎให้เด็กชายสามารถติดตามผู้ใหญ่เข้าไปแสวงบุญที่นี่ได้ด้วย
แม้จะมีกฎเหล็กแต่ในอดีตก็เคยมีผู้หญิงเข้าไปที่นี่ด้วยกันหลายครั้ง โดยในช่วงสงครามกลางเมืองกรีซในปี 2489-2492 เขาแอทอสเคยอนุญาตให้ครอบครัวชาวนาเข้าไปพักพิง และในปี 2496 เคยมีหญิงชาวกรีกคนหนึ่งปลอมตัวเป็นชายเข้าไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 วัน ส่งผลให้ทางการกรีซต้องออกกฎหมายห้ามสตรีเข้าไปที่เขาแอทอส และกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนด้วยโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน ล่าสุดในปี 2551 มีหญิงชาวมอลโดวา 4 คนถูกขบวนการค้ามนุษย์นำไปปล่อยทิ้งไว้ที่เขาแห่งนี้ พวกเธอถูกตำรวจควบคุมตัวเป็นเวลาสั้นๆ และได้รับการปล่อยตัวหลังได้รับการยกโทษจากเหล่านักบวช
สำหรับการเยือนของประธานาธิบดีปูตินครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่เขาเยือนโบสถ์ออร์โธด็อกซ์ของรัสเซียบนเขาแอทอส โดยการเยือนครั้งแรกในปี 2548 ผู้แสวงบุญส่วนใหญ่เป็นชาวกรีก แต่ปัจจุบันมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่ปีละ 40,000 คน และกว่าครึ่งเป็นชาวรัสเซีย
#athos
แสดงความคิดเห็น