ชาวอิหร่านอดแสวงบุญพิธิฮัจญ์ปีนี้ หลังรัฐบาลเจรจากับซาอุดิอาระเบียไม่สำเร็จ
การเจรจาแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องพิธีฮัจญ์ระหว่างรัฐบาลอิหร่านและซาอุดิอาระเบียล้มเหลว ทำให้ชาวอิหร่านจะไม่ได้เดินทางไปประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาอิสลามที่นครเมกกะในปีนี้
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายอาลี จานนาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของอิหร่าน แถลงข่าวว่ารัฐบาลพยายามเจรจาต่อรองกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียเรื่องการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเกี่ยวกับการประกอบพิธีฮัจญ์ เมื่อวันที่ 26-27 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่อาจหาข้อสรุปได้ เพราะรัฐบาลซาอุฯ ยังยืนยันมาตรการกีดกันต่างๆ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านจะไม่ได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือน ก.ย.
ทั้งนี้ ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมหลายร้อยคนเสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในซาอุดิอาระเบียเมื่อปี 2558 และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่าน ขณะที่ชาวอิหร่านที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุฯ เมื่อปีที่ผ่านมา มีจำนวนราว 60,000 คน
หลังจากนั้นยังเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศอีกหลายประการ นำไปสู่การตัดความสัมพันธ์เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียตัดสินประหารชีวิต ชีค นิมร์ อัล-นีมร์ ผู้นำคนสำคัญของศาสนาอิสลามนิกายชีอะ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวอิหร่าน รวมถึงผู้ต้องหาอีก 46 ราย ซึ่งถูกลงโทษในข้อหาเกี่ยวพันการก่อการร้าย และผู้ชุมนุมชาวอิหร่านตอบโต้กลับด้วยการบุกเข้าไปจุดไฟเผาสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำกรุงเตหะรานของอิหร่าน
ขณะที่องค์กรกิจการฮัจญ์ของอิหร่านกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียกีดกันสิทธิของชาวอิหร่านในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นการกีดกันเส้นทางสู่พระผู้เป็นเจ้า และองค์กรดังกล่าวยังตำหนิด้วยว่ารัฐบาลซาอุฯ ล้มเหลวในการทำตามข้อเรียกร้องเรื่องความปลอดภัยและการเคารพสิทธิของผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน
ด้านรัฐบาลซาอุดิอาระเบียยืนยันว่าทางฝ่ายตนได้เสนอทางออกมากมาย เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของอิหร่าน แต่รัฐบาลอิหร่านกลับยื่นเงื่อนไขต่างๆ ที่ซาอุฯ ไม่อาจยอมรับได้ ขณะที่รายงานข่าวระบุด้วยว่าประเด็นที่คาดว่าเป็นปัญหาสำคัญระหว่างทั้งสองประเทศ ได้แก่ เรื่องวีซ่าและเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ ศาสนาอิสลามระบุว่าหากมีโอกาส ชาวมุสลิมผู้ศรัทธาต้องประกอบพิธีฮัจญ์อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
แสดงความคิดเห็น