โคลอมเบียลงนามหยุดยิงกับกลุ่มฟาร์ก ใกล้ยุติสงคราม 50 ปี
นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบีย พร้อมด้วยนายโรดริโก ลอนโดโน หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (FARC) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ทิโมเชงโก” ร่วมลงนามในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายซานโตส ผู้นำโคลอมเบีย ระบุว่าวันนี้คือวันแห่งประวัติศาสตร์ ขณะที่นายลอนดอโน ผู้นำกลุ่มฟาร์ก ประกาศว่า “ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสงคราม” และรายงานข่าวระบุว่าการลงนามครั้งนี้เปรียบได้กับขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพในเวลาอันใกล้ ซึ่งจะทำให้กองทัพรัฐบาลโคลอมเบียและนักรบของกลุ่มฟาร์กยุติการต่อสู้ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 50 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 220,000 ราย และผู้พลัดถิ่นอีกราว 7 ล้านคน
นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบีย พร้อมด้วยนายโรดริโก ลอนโดโน หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (FARC) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ทิโมเชงโก” ร่วมลงนามในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายซานโตส ผู้นำโคลอมเบีย ระบุว่าวันนี้คือวันแห่งประวัติศาสตร์ ขณะที่นายลอนดอโน ผู้นำกลุ่มฟาร์ก ประกาศว่า “ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสงคราม” และรายงานข่าวระบุว่าการลงนามครั้งนี้เปรียบได้กับขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพในเวลาอันใกล้ ซึ่งจะทำให้กองทัพรัฐบาลโคลอมเบียและนักรบของกลุ่มฟาร์กยุติการต่อสู้ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 50 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 220,000 ราย และผู้พลัดถิ่นอีกราว 7 ล้านคน
พิธีลงนามในข้อตกลงหยุดยิงถูกจัดขึ้นที่กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา ในฐานะที่รัฐบาลคิวบาเป็นตัวกลางจัดการเจรจาระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ปี 2556 และพิธีดังกล่าวมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม ทั้งกลุ่มผู้นำประเทศในทวีปอเมริกากลาง รวมถึงนายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN)
ขณะที่นางเฟเดริกา โมเกรินี ประธานกรรมาธิการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวสนับสนุนการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงของโคลอมเบียและกลุ่มฟาร์กว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก
ส่วนเงื่อนไขในข้อตกลงหยุดยิงระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องเจรจาลงนามในแผนสันติภาพอย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.ค. และกลุ่มนักรบของฟาร์กจะต้องวางอาวุธทั้งหมดในเวลา180 วันนับจากวันที่มีการลงนามในแผนสันติภาพ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันจัดตั้งค่ายและศูนย์ฟื้นฟูให้แก่กลุ่มนักรบฟาร์กที่ยังเหลืออยู่ราว 7,000 นาย และต้องควบคุมไม่ให้พลเรือนเข้าไปในพื้นที่ของกลุ่มติดอาวุธฟาร์ก เพื่อรับประกันความปลอดภัย รวมถึงเปิดให้กลุ่มสังเกตการณ์ของสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบการปลดอาวุธ
ขณะที่นางเฟเดริกา โมเกรินี ประธานกรรมาธิการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวสนับสนุนการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงของโคลอมเบียและกลุ่มฟาร์กว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก
ส่วนเงื่อนไขในข้อตกลงหยุดยิงระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องเจรจาลงนามในแผนสันติภาพอย่างเป็นทางการภายในเดือน ก.ค. และกลุ่มนักรบของฟาร์กจะต้องวางอาวุธทั้งหมดในเวลา180 วันนับจากวันที่มีการลงนามในแผนสันติภาพ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันจัดตั้งค่ายและศูนย์ฟื้นฟูให้แก่กลุ่มนักรบฟาร์กที่ยังเหลืออยู่ราว 7,000 นาย และต้องควบคุมไม่ให้พลเรือนเข้าไปในพื้นที่ของกลุ่มติดอาวุธฟาร์ก เพื่อรับประกันความปลอดภัย รวมถึงเปิดให้กลุ่มสังเกตการณ์ของสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบการปลดอาวุธ
แสดงความคิดเห็น