ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ กอ.รมน.ถอนแจ้งความนักสิทธิมนุษยชนผู้จัดทำรายงานสถานการณ์ซ้อมทรมาน
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ “ฮิวแมนไรท์วอทช์” ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 9 มิ.ย. เรียกร้องให้กองทัพไทยถอนแจ้งความดำเนินคดีนักสิทธิมนุษยชน 3 ราย ได้แก่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษามูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ น.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ ซึ่งร่วมกันจัดทำ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2557-2558” เผยแพร่สู่สาธารณชนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ “ฮิวแมนไรท์วอทช์” ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 9 มิ.ย. เรียกร้องให้กองทัพไทยถอนแจ้งความดำเนินคดีนักสิทธิมนุษยชน 3 ราย ได้แก่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษามูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ น.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ ซึ่งร่วมกันจัดทำ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2557-2558” เผยแพร่สู่สาธารณชนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความดำเนินคดีนักสิทธิมนุษยชนทั้งสามรายที่สถานีตำรวจในจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาโดยเอกสาร และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ โดยอ้างอิงถึงข้อมูลในรายงานฉบับดังกล่าวซึ่งระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย 54 ราย เข้าข่ายหมิ่นประมาทต่อกองทัพ ซึ่งฮิวแมนไรท์วอทช์เห็นว่า กอ.รมน.ควรถอนแจ้งความและเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงสิ่งที่ปรากฏในรายงานดังกล่าวแทน
ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องที่ กอ.รมน. แจ้งความดำเนินคดี โดยคาดว่าตำรวจจะต้องดำเนินขั้นตอนสืบสวนสอบสวนไปตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยชี้แจงกับนายทหารในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระดับกลาง และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เกี่ยวกับรายงานดังกล่าว โดยยืนยันว่าสิ่งที่ปรากฏในรายงานเป็นการเก็บข้อมูลเชิงวิชาการ และได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จะยังไม่พอใจ
ก่อนหน้านี้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงตอบโต้รายงานสถานการณ์การซ้อมทรมานฯ โดยระบุว่าเป็นข้อมูลเก่า และย้ำว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดำเนินไปอย่างระมัดระวัง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ต่างรับรู้และมีส่วนร่วม
พ.อ.ปราโมทย์ เคยกล่าวกับบีบีซีไทยเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่าเรื่องการซ้อมทรมานเป็นประเด็นใหญ่ที่กองทัพเรียนรู้มาโดยตลอด และปัจจุบันแทบจะไม่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น #ซ้อมทรมาน
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)
ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องที่ กอ.รมน. แจ้งความดำเนินคดี โดยคาดว่าตำรวจจะต้องดำเนินขั้นตอนสืบสวนสอบสวนไปตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยชี้แจงกับนายทหารในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระดับกลาง และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เกี่ยวกับรายงานดังกล่าว โดยยืนยันว่าสิ่งที่ปรากฏในรายงานเป็นการเก็บข้อมูลเชิงวิชาการ และได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จะยังไม่พอใจ
ก่อนหน้านี้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงตอบโต้รายงานสถานการณ์การซ้อมทรมานฯ โดยระบุว่าเป็นข้อมูลเก่า และย้ำว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดำเนินไปอย่างระมัดระวัง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ต่างรับรู้และมีส่วนร่วม
พ.อ.ปราโมทย์ เคยกล่าวกับบีบีซีไทยเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่าเรื่องการซ้อมทรมานเป็นประเด็นใหญ่ที่กองทัพเรียนรู้มาโดยตลอด และปัจจุบันแทบจะไม่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น #ซ้อมทรมาน
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)
แสดงความคิดเห็น