ความตายของทูตรัสเซีย: กระสุนแห่งความเจ็บปวด?
Posted: 21 Dec 2016 02:58 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
อังเดร คาลอฟ ทูตรัสเซียประจำตุรกี ขณะกล่าวในงานนิทรรศการภาพถ่ ายแห่งหนึ่งที่กรุงอังการา ประเทศตุรกี ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีเขาจะถูกมื อปืนลอบยิง (ที่มา: AKSAM)
หลังเหตุการณ์สังหารนักการทูตรั สเซีย นายอังเดร คาร์ลอฟ (Andrei Karlov) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุ งอังการา ตุรกี เมื่อคืน (19 ธ.ค. 59 เวลาท้องถิ่น) พลันในหัวทำให้นึกถึงเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ขึ้นมาอย่างฉับพลั นและพร้อมกับการคาดเดาว่าจะเกิ ดอะไรขึ้นในอนาคต...
ในประวัติศาสตร์อันสำคั ญของโลกเกี่ยวกับสงคราม เหตุการณ์มกุฎราชกุมารแห่ งออสเตรีย-ฮังการี คือ ฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ ถูกลอบปลงพระชนม์ใน ค.ศ.1914 ณ. เมืองซาราเจโว ขณะเสด็จเยือนเมื องหลวงของบอสเนีย โดยผู้ลอบสังหารคือ กาฟริโล ปรินซิพ นักศึกษาชาวบอสเนียสัญชาติเซอร์ เบีย ถือว่าเป็นคนหนุ่ม ที่ปฎิบัติการครั้งนี้และเป็ นสาเหตุประการหนึ่งทีทำให้เกิ ดสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก
เป็นทีรับทราบกันดีว่ าสงครามในซีเรีย ประธานาธิบดีปูตินแห่งประเทศรั สเซียคือผู้หนุนหลังประธานาธิ บดีบัชชาร ฮาฟิซ อัลอะซัด ที่ปกครองซีเรีย ผู้ครองอำนาจต่อจากบิดามาอย่ างยาวนาน ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่อต้าน เกิดการประท้วงภายหลังจากเหตุ การณ์อาหรับสปริง บางส่วนกลายมาเป็นกลุ่มติดอาวุ ธต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีหลายกลุ่มด้วยกัน ไม่ใช่มีแต่กลุ่มไอซิส
ปูตินแห่งรัสเซียและบัชชารแห่ งซีเรีย ได้ร่วมมือกันก่อสงครามและเข่ นฆ่าประชาชนในซีเรียอย่างเลื อดเย็น โดยข้ออ้างของการปราบปรามกลุ่ มไอซิส การก่อการร้าย ทำให้ประชาชนมุสลิมจำนวนมากที่ ติดตามเรื่องสงครามซีเรีย ไม่ชอบและต่อต้านรัฐบาลซีเรี ยและรัฐบาลรัสเซีย
มุสลิมและผู้คนทั่วโลกจำนวนไม่ น้อยได้เห็นถึงความไร้สั จจะของปูตินและบัชชาร จะเรียกว่านโยบายการทูตหรื อผลประโยชน์ของประเทศอะไรก็ตาม แต่ในสายตาของคนมุสลิมมันคื ออาชญากรสงครามระดับตัวพ่อ ที่ก่อให้ผู้คนเสียชีวิตและผู้ อพยพจำนวนมาก
ในประวัติศาสตร์อันสำคั
เป็นทีรับทราบกันดีว่
ปูตินแห่งรัสเซียและบัชชารแห่
มุสลิมและผู้คนทั่วโลกจำนวนไม่
เหตุการณ์การยิงนักการทูตรัสเซี ยในกรุงอังการา ของนายเมวลูท แมรท อัลทินทาซ (Mevlüt Mert Altıntaş) เรามุสลิมต้องแสดงความเสียใจอย่ างสุดซึ่ง เพราะนี้ไม่ใ่ช่หนทางของการหยุ ดสงครามซีเรีย และไม่ใช่แนวทางอันสง่างาม การฆ่าคน ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กในซีเรี ยได้
สำหรับมุสลิมแล้ว เราต้องไม่สนับสนุนวิธีการใช้ ความรุนแรงแบบนี้ เพราะนักการทูต, นักบวช, พ่อค้า, ประชาชน เมื่อเข้ามาอยู่ในสังคมที่มุสลิ มเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาคือแขกผู้มีเกียรติ เราจำเป็นต้องปกป้องและให้ ความยุติธรรมกับพวกเขา
นั้นก็หมายรวมถึงนักการทูตรั สเซียที่มาปฎิบัติงานในกรุงอั งการา เราต้องไม่ฉีกสัญญาแห่งการทู ตและสัจจะระหว่างกัน เพราะนี้คือความสง่างามที่ เราเคยมีในประวัติศาสตร์อิสลาม ท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล.) เคยกล่าวไว้ว่า
“ผู้ใดที่เข่นฆ่าผู้ที่อยู่ ภายใต้สนธิสัญญา เขาจะไม่ได้รับกลิ่ นอายของสวรรค์ ทั้งที่กลิ่นของสวรรค์นั้ นสามารถสัมผัสได้แม้จะอยุ่ห่ างออกไปเป็นระยะทางเท่ากั บการเดินทางสี่สิบปีก็ตาม ” (บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6914 )
ประวัติศาสตร์อิสลามมีบทเรี ยนกำชับให้มุสลิมทุกคนปกป้ องคนต่างศาสนิกที่อยู่ภายในสั งคมอิสลามโดยถือว่าพวกเขาเหล่ านั้นเป็นประชากรที่มีสิทธิ และเสรีภาพเช่นเดียวกับมุสลิมที่ เป็นคนส่วนใหญ่ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องคุ้มครองชี วิตและทรัพย์สินของพวกเขาเสมื อนการให้การคุ้มครองแก่ชาวมุสลิ มทุกประการ
สำหรับการการฆ่านักการทูตรัสเซี ยครั้งนี้ เป็นการทำให้รัสเซียเข้มแข็ งและชอบธรรมมากกว่าเดิม และจะทำให้ตุรกีและโลกมุสลิมเสี ยเกียรติ และทำให้สงครามยืดเยื้อและมีเงื่ อนไขใหม่ๆขึ้นมา
ข้อสังเกตบางประการ ต่อการสังหารนักการทูตครั้งนี้ คำถามสำคัญคือว่า ทำไมต้องสังหารนักการทูตรัสเซีย การเมืองเรื่องอำนาจในแผ่นดินซี เรีย มีหลายฝ่ายด้วยกันที่ปฎิบัติ ในนามของรัฐ ทั้งตุรกี อเมริกา ฝรังเศส เยอรมัน รัสเซีย รัฐบาลซีเรีย ฯลฯ
สำหรับผู้ลงมือสังหารเขาคื อคนหนุ่ม มีหน้าที่การงานที่ดี และหลังจากที่ลงมือสังหาร เข้าได้ตะโกนเป็นภาษาตุรกี ข้อความที่ส่งออกมาคือ พูดถึงสงครามในซีเรีย เหยื่อ เด็กๆ ที่สูญเสียชีวิต " เราต้องไม่ลืมซีเรีย " น้ำเสียงที่พูดออกไปด้วยความหนั กแน่น แต่ข้อความของมันคือ ความเอาใจใส่ชีวิตของผู้คนในแผ่ นดินซีเรีย...คำถามคือ ยังมีคนสามัญ คนเล็กคนน้อย และคนจำนวนมาก ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์ และทนไม่ได้กับสงคราม แล้วเราจะรับมือกันอย่างไร ?
สำหรับสังคมมุสลิมแล้วมันคื อกระสุนแห่งความเจ็ บปวดและความอับอาย เราเจ็บปวดที่เราต้องอยู่กับวิ ธีการแห่งความรุนแรงที่ กระทำในนามมุสลิมเสมอ และเราอับอายที่เราไม่ สามารถปกป้อง รักษาชีวิตผู้คนภายใต้สนธิสั ญญาได้ ตามที่ท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล) ได้กล่าวและบอกเราทุกคนว่า
“ผู้ใดที่เข่นฆ่าผู้ที่อยู่ ภายใต้สนธิสัญญา เขาจะไม่ได้รับกลิ่ นอายของสวรรค์” (บันทึกโดยบุคอรีย์)
สำหรับมุสลิมแล้ว เราต้องไม่สนับสนุนวิธีการใช้
นั้นก็หมายรวมถึงนักการทูตรั
“ผู้ใดที่เข่นฆ่าผู้ที่อยู่
ประวัติศาสตร์อิสลามมีบทเรี
สำหรับการการฆ่านักการทูตรัสเซี
ข้อสังเกตบางประการ ต่อการสังหารนักการทูตครั้งนี้ คำถามสำคัญคือว่า ทำไมต้องสังหารนักการทูตรัสเซีย การเมืองเรื่องอำนาจในแผ่นดินซี
สำหรับผู้ลงมือสังหารเขาคื
สำหรับสังคมมุสลิมแล้วมันคื
“ผู้ใดที่เข่นฆ่าผู้ที่อยู่
เผยแพร่ครั้งแรกใน: Patani Forum
แสดงความคิดเห็น