ปี 2559 มูลนิธิปวีณา รับเรื่องร้องทุกข์ 9,157 เรื่อง
ปี 2559 มูลนิธิปวีณา รับเรื่องร้องทุกข์ 9,157 เรื่อง
Posted: 24 Dec 2016 03:35 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สรุปผลการดำเนินงานการช่วยเหลือสังคม เด็ก และสตรี ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ปี 2559 ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งสิ้น จำนวน 9,157 เรื่อง ปัญหาครอบครัวสูงสุด 1,540 ราย ตามด้วยทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขัง 939 ราย
24 ธ.ค. 2559 เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่านางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) แถลงสรุปผลการดำเนินงานการช่วยเหลือสังคม เด็ก และสตรี ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในรูปแบบต่างๆ ประจำปี 2559 โดย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – วันที่ 21 ธ.ค. มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งสิ้น จำนวน 9,157 เรื่อง ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิตนครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้สรุปผลการดำเนินงานการช่วยเหลือสังคม เด็ก และสตรี ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในรูปแบบต่างๆ ประจำปี 2559 โดย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – วันที่ 21 ธ.ค. ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งสิ้น จำนวน 9,157 เรื่อง ประกอบด้วย 1. ข่มขืน/อนาจาร 681 ราย 2. ล่อลวงค้าประเวณี 176 ราย 3. ทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขัง 939 ราย 4. คนหาย 229 ราย 5. เร่รอนจรจัด พลัดหลง 92 ราย 6. แรงงานไม่เป็นธรรม 69 ราย 7. ปัญหาครอบครัว 1,540 ราย 8. ขอความเป็นธรรม 356 ราย 9. แชท อินเตอร์เน็ต 174 ราย 10. ขอความอนุเคราะห์ 894 ราย 11. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ 110 ราย 12. ปัญหาอื่นๆ 1,005 ราย 13. ปรึกษาทางโทรศัพท์ 2,892 ราย
ปัญหาที่มูลนิธิปวีณาฯ ให้ความสำคัญและจะเข้าช่วยเหลือทันที คือ 1. ข่มขืน อนาจาร 2. ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ประมง ขอทาน 3. ทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขัง 4. ปัญหาครอบครัว
1. คดีข่มขืนในปี 2559 มี 681 ราย ซึ่งสถิติขึ้นสูงกว่าปีที่แล้ว ถึง 23 ราย เฉลี่ยมูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องข่มขืนวันละเกือบ 2 ราย ช่วงอายุของผู้เสียหาย อายุน้อยที่สุดเป็นเด็กหญิง อายุ 1 ปี 5 เดือน รับเรื่องช่วงเดือน ก.ค.59 ผู้กระทำเป็นพ่อเลี้ยง ขณะนี้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว และผู้เสียหายที่อายุมากที่สุด เป็นหญิงชราอายุ 78 ปี ผู้กระทำเป็นเพื่อนบ้าน ขณะนี้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว
2. เรื่องค้ามนุษย์ ค้าประเวณี มูลนิธิปวีณาฯรับเรื่องราวร้องทุกข์ถึง 176 ราย เฉลี่ยรับเรื่องร้องทุกข์เดือนละ 15 ราย ปัญหานี้ได้ลดลงจากปีที่แล้ว 24 ราย เนื่องจากรัฐบาลได้หันมาแก้ไขปัญหาและปราบปรามอย่างจริงจังมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังคงมีเหยื่อหญิงสาวทั้งที่สมัครใจและถูกล่อลวงร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ในส่วนคนที่สมัครใจที่จะเดินทางไปทำงานนวดและค้าประเวณียังต่างประเทศ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่ารายได้หรือความเป็นอยู่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ก็จะร้องขอความช่วยเหลือเพราะผู้ที่ชักชวนไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางและทุกอย่างให้ ทำให้ต้องเป็นหนีและถูกบังคับทำให้ทำงานใช้หนี้ ส่วนผู้ที่ถูกล่อลวงไปก็เช่นกัน เมื่อรู้ว่าไปถึงกลับถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีแทนที่จะได้ทำงานตามที่ตกลงไว้ก็ต้องการกลับประเทศแต่ไม่มีเงินที่ใช้หนี้ในการเดินทาง เหยื่อเหล่านี้ก็จะแจ้งร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ จากนั้นมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเพื่อที่ให้การช่วยเหลือได้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ซึ่งประเทศที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีมากที่สุด คือ บาห์เรน , เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ตามลำดับ
3. เรื่องทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขัง มูลนิธิปวีณาฯรับร้องทุกข์ถึง 939 ราย เฉลี่ยรับเรื่องร้องทุกข์วันละ 3 ราย สถิติสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 212 ราย แบ่งเป็น เด็กถูกทำร้ายร่างกายและทารุณกรรม ซึ่งเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายอายุต่ำสุด 2 เดือน ผู้ทำร้ายคือ พ่อ สาเหตุเพราะติดยาเสพติด และผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายและทารุณกรรม ซึ่งผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายอายุมากสุด 84 ปี ผู้ทำร้ายคือ ลูกสาว ส่วนสาเหตุการกระทำความรุนแรง ทารุณกรรม กักขัง ส่วนใหญ่เกิดจาก ความเครียด , เมาสุรา , เสพยาเสพติด , หึงหวง
4. ปัญหาครอบครัว มูลนิธิปวีณาฯรับเรื่องราวร้องทุกข์ถึง 1,540 ราย ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วกว่า 1 เท่าตัว ส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ปัญหาจากยาเสพติด ปัญหาจากการฟ้องหย่า ปัญหาจากการแย่งบุตร ปัญหาจากการท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ปัญหาจากการไม่ส่งเสียหรือดูแลบุตร และครอบครัว
มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2542 ถึง ปัจจุบัน นับ 17 ปี และได้รับเรื่องราวร้องทุกข์มาแล้วทั้งสิ้น 113,117 ราย (ตามสถิติแนบ) สำหรับช่องทางการติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ สามารติดต่อได้ 8 ช่องทาง ดังนี้ (1) สายด่วน 1134 (2) โทรศัพท์พื้นฐาน 5 เลขหมาย (3) โทรศัพท์มือถือ 3 เลขหมาย (4) โทรสาร (5) e-mail: pavena1134@hotmail.com (6) facebook: มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (7) ตู้ ปณ.222 และ (8) มาร้องเรียนด้วยตนเองที่มูลนิธิปวีณาฯ
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวต่อว่า มูลนิธิปวีณาฯ ต้องขอขอบคุณทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1-9 กองบังคับการกองปราบปราบ (บก.ป) กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตำรวจในพื้นที่ทุกแห่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน สภาทนายความ และสื่อมวลชนทุกแขนง ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯทำการช่วยเหลือสังคมด้วยดีตลอดมา โดยเฉพาะประชาชน พลเมืองดีที่ได้ช่วยแจ้งเบาะแสมากขึ้น มีส่วนช่วยเหลือสังคมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯไม่ได้ขอเงินสนับสนุนจากหน่วยงานใด เงินที่มาใช้จ่ายจะเป็นเงินรับบริจาคจากประชาชนอย่างเดียว จำเป็นที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริจาคเงินคนละเล็กละน้อย เพื่อมูลนิธิฯจะได้เป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปดำเนินงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกเป็นเหยื่อให้กลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข เพราะปัจจุบันมูลนิธิปวีณาฯไม่มีรายรับใดๆ นอกจากเงินบริจาคจากประชาชน จึงได้รณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบการช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคเงิน เพื่อมูลนิธิฯจะได้นำเงินไปช่วยเหลือสังคม
เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2560 ในนามมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ขออวยพรให้คนไทยทุกคนพร้อมทั้งครอบครัว สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีครอบครัวที่อบอุ่นเข้มแข็ง นำไปสู่ชีวิตที่มั่นคง ช่วยทำความดี ช่วยเหลือสังคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต่อไป
แสดงความคิดเห็น