25 ธ.ค.59 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจมากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอรายงานเรื่องการแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ในวงราชการ ทั้งที่ สนช.เองก็เข้าสู่อำนาจจากระบบอุปถัมภ์โดยคณะรัฐประหาร และสาระของรัฐธรรมนูญที่ กรธ.ร่างมีรูปลักษณ์ของรัฐราชการ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของระบบดังกล่าว

ทั้งนี้ ข้อเสนอแบบห้ามตีกอล์ฟ ห้ามกินเลี้ยง ดูแผ่วเบามากสำหรับการแก้ปัญหานี้ เท่าที่ตามข่าวไม่มีการพูดถึงปัญหาหลักการอย่างแท้จริงว่า ความไม่เป็นประชาธิปไตยคือแหล่งเพาะพันธ์ุและขยายผลของระบบอุปถัมภ์ ถ้ารูปแบบการปกครองไม่ใช่การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน การพูดถึงการแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ยังเป็นเรื่องไกลความจริง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า พิจารณาจากสภาพปัจจุบันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า สังคมไทยอยู่ภายใต้กลไกของระบบอุปถัมภ์ในวงราชการ การแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจากฝ่ายความมั่นคงและบุคคลใกล้ชิด เป็นเครื่องยืนยันประเด็นนี้ได้เป็นอย่างดี ในคณะกรรมาธิการที่ศึกษาไม่ได้พูดคุยกันเลยหรือว่า การลดอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์คือการเพิ่มอิทธิพลให้ประชาชน วันนี้ก็เห็นกันอยู่ว่า ทุกกลไกเขาถือคติตามใจแป๊ะ แม้แต่ในที่ประชุม สนช.เอง ก็เพิ่งมองข้ามเสียงเรียกร้องของประชาชนหลายแสนคนที่คัดค้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะอำนาจที่ตั้งตัวเองมาต้องการให้ผ่าน และมีหวังกับการได้ไปต่อในฐานะ ส.ว.ลากตั้ง หากทำงานเข้าตา สนช.เสนอการแก้ปัญหาทั้งที่ตัวเองอยู่ตรงกลางของปัญหาแบบนี้ได้อย่างไร

"ผมเห็นด้วยกับการแก้ไขระบบอุปถัมภ์ แต่เห็นว่าจะแก้ได้จริงคือ ต้องสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ถ้าคนคิดแก้ปัญหากินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง แต่ทำเป็นมองไม่เห็นความจริง คงคาดหวังกับการแก้ปัญหาไม่ได้" นายณัฐวุฒิ กล่าว

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.