Posted: 17 Aug 2017 12:15 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ออกแถลงการณ์ ร้องรัฐบาลและ สภ.ช้างเผือก ถอนฟ้อง อ.ชยันต์และพวกทันที หลังถูกหมายเรียกคดีฝืนคำสั่งชุมนุมทางการเมือง ปมกิจกรรมชูป้ายข้อความว่า “เวทีวิชาการ ไม่ใช่ค่ายทหาร” ในงานไทยศึกษา พร้อมยุติการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ


ภาพชูป้ายที่มีข้อความ “เวทีวิชาการ ไม่ใช่ค่ายทหาร” ที่มาภาพ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง - คนส.

17 ส.ค.2560 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกนักวิชาการและนักศึกษา 5 คน ประกอบด้วย ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) และยังเป็นประธานกรรมการและประธานฝ่ายวิชาการจัดงานประชุมไทยศึกษาครั้งที่ 13 ที่ จ.เชียงใหม่เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกคือ ธีรมล บัวงาม นักศึกษาปริญญาโท คณะการสื่อสารมวลชน มช. และยังเป็นบรรณาธิการสำนักข่าวประชาธรรม, ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลและนักเขียนอิสระ, ชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มช. และนลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรีคณะการสื่อสารมวลชน มช. ซึ่งเป็นหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ลงวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 เรื่องการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จากกรณีเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในการประชุมวิชาการไทยศึกษาเมื่อเดือนที่ผ่านมา (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.ภาคเหนือ) ซึ่งเป็นกลไกประสานงานร่วมของเครือข่ายและสมาชิกองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วภาคเหนือ ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและคัดค้านการออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจและข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลและสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ถอนการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ อ.ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ และผู้ถูกกล่าวหา (ทั้ง 5 ท่าน) รวมทั้งเรียกร้องต่อรัฐบาลในการยุติการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพของประชาชนเพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งชาติได้บัญญัติไว้

รายละเอียดแถลงการณ์

แถลงการณ์ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ
หยุดแทรกแซงการแสดงออกทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ตามที่ อ.ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ รวมทั้งนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักแปล รวม 5 คน ได้ถูกหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก โดยพันเอกสืบสกุล บัวระวงศ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้องจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งความกล่าวหาว่า อ.ดร.ชยันต์ และพวกรวม 5 คน มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมาจากเหตุการณ์การแสดงจุดยืนทางวิชาการในระหว่างการประชุมนานาชาติไทยศึกษา ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ(กป.อพช.ภาคเหนือ) ซึ่งเป็นกลไกประสานงานร่วมของเครือข่ายและสมาชิกองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วภาคเหนือ ขอร่วมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและคัดค้านการออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจและข้อกล่าวหาดังกล่าว ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้

1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปี 2560 หมวด 3 สิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 25 ได้บัญญัติไว้ว่า “สิทธิหรือเสรีภาพใดที่รัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ แม้ยังไม่มีการตรากฎหมายนั้นขึ้นใช้บังคับ บุคคลหรือชุมชนย่อมสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพนั้นได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” ซึ่งการกระทำของ อ.ดร.ชยันต์และคณะทั้ง 5 ท่านนั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ มิได้ละเมิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

2. ข้อกล่าวหา “มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย” เป็นข้อกล่าวหาที่เกินกว่าเหตุ และไม่สมควรอย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นข้อกล่าวหาเพื่อจับกุมบุคคลทั้งห้าดังกล่าว เนื่องจากเป็นการแสดงออกทางวิชาการในเวทีวิชาการที่จัดขึ้นระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผลงานทางวิชาการในการสะท้อนปัญหาและภูมิปัญญาองค์ความรู้ วัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นที่หลากหลาย และมีผู้เข้าร่วมแสดงผลงานทางวิชาการที่หลากหลายมากมายหลายประเทศ การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้เท่ากับเป็นการแสดงให้นานาประเทศเห็นถึงความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่จำกัดและปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน

3. อ.ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ เป็นนักวิชาการที่มีจุดยืนและการทำงานทางสังคม รวมทั้งทุ่มเทเสียสละในการทำงานวิชาการเคียงข้างกับประชาชนผู้ทุกข์ยากของสังคมไทยมายาวนาน เป็นที่เคารพศรัทธาจากภาคประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน รวมทั้งนักวิชาการและนักกิจกรรมทางสังคมอย่างกว้างขวาง การดำเนินการดังกล่าว ไม่เพียงจะถูกมองว่าเป็นการข่มขวัญประชาชน แต่ยังเท่ากับเป็นการสร้างความกดดันและจุดประกายความขัดแย้งให้ภาคประชาชนทั้งหลายอีกด้วย

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ(กป.อพช.ภาคเหนือ) จึงขอยืนยันว่า เสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพทางความคิด และการแสดงออกถึงเสรีภาพของประชาชนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลที่ปกครองประเทศต้องให้ความเคารพและปกป้องสิทธิเสรีภาพนี้

เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ถอนการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ อ.ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ และผู้ถูกกล่าวหา (ทั้ง 5 ท่าน) รวมทั้งเรียกร้องต่อรัฐบาลในการยุติการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพของประชาชนเพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งชาติได้บัญญัติไว้

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.ภาคเหนือ)

วันที่ 16 สิงหาคม 2560

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.