ปูต้องไป

ทางสามแพร่งสำหรับนายกปู คือ ติดคุก หนี ยอมถอย


ก่อนจะถึงวันตัดสินคดี มีข้อมูลเชื่อได้๑๐๐%ว่า เสียงส่วนใหญ่ลงมติเอาปูเขาคุก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการเจรจาหาทางออกหลายครั้งหลายหน แต่หนทางมันจน เพราะคำว่าอำมาตย์ เป็นคำที่ถูกอ้างนำมาใช้ บีบให้ปูนาขาเกต้องเข้าไปอยู่ในคุก เพื่อกดดันพี่ชายที่แสนน่ารัก ไม่ให้เคลื่อนไหวอีกต่อไป เพราะถ้าขึนซ่า ปูนาอาจกลายเป็นปูยำไปก็ได้

ดังนั้นปัญหาจึงตกอยู่ กับคนบริหารประเทศ ถ้าปูต้องเข้าคุก โดนต่างประเทศรุมยำหนักขึ้น แถมในแต่ละวัน จะมีคนไปเยี่ยมปูในเรือนจำหลักพันหลักหมื่นทุกวัน เป็นข่าวแบบไม่รู้จบ ปวดหัวฉิบหายเลย

แต่ถ้าปล่อยปูนาพ้นมลทิน ก็โดนอำนาจแฝงพร้อมสมุน คือ ปชป สลิ่ม นกหวีด รุมยำ รัฐบาลสั่นคลอนไม่รู้จะเอาตัวรอดได้หรือเปล่า

เกมส์การบีบให้ปูบิน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แต่ใครละที่จะมีอำนาจ พาปูเดินผ่านนาโดยไม่ถูกชาวนาจับไปปิ้งกินเสียก่อน

ดังนั้น คนทีอาสาพาปูนาไปส่งที่ชายแดน ข่าวว่าเคยสวมสีเขียวๆ แถมร่วมในคณะรัฐบาลด้วย คนๆนี้ไม่ค่อยบู๊เท่าไหร่ ยังพอพูดคุยได้เพราะเรียนมาด้วยกันในระดับเตรียมทหาร เขาว่ามาอย่างนั้น จริงเท็จไม่ยืนยันต้องไปสอบถามเจ้าตัยดู อ่านดูก็รู้หมายถึงใคร

หลังจากไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังแล้ว ปูน่าของเราก็ไม่ได้กลับไปบ้านอีกเลย เล่นเกมส์ไปนั้นไปนี้ แถมหนีไปนอนโรงแรมในเครือแถวๆ เลียบทางด่วน ใครคิดไม่ออกว่าโรงแรมชื่ออะไร จำอริสมันได้ไหม เคยปีนหน้าต่างหนีงัย

ดังนั้นการไปครั้งนี้ของปูนาจึงไม่ใช่การหนี แต่เป็นการถอยเพื่อประคองเรื่องร้ายๆไว้บนบ่าต่อไป โถ..ถ้าขึนดื้อไม่ถอย ธุรกิจในเครือของญาติพี่น้องซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย อาจพลอยฟ้าพลอยฝน ถูกยึด ถูกยัด หมดเนื้อหมดตัว เป็นใครก็ต้องกลัว ถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่า

สรุปเกมส์นี้ปูไม่แพ้ แต่ผู้แพ้ คือคนที่เอาปูไปเข้าคุกไม่ได้ ฮาไหมครับ พี่น้อง

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล หัวหน้าฝ่ายกฏหมายพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย

อาทิตย์ ๒๔ สค ๖๐ ๒๑.๑๔ น.


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.