Posted: 24 Aug 2017 10:52 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

25 ส.ค.2560 จากกรณีโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบีบีซี ถูกดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย ที่ศาลภูเก็ต จากการนำเสนอรายงานเรื่องการปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงที่ดินของชายชาวอังกฤษ

ล่าสุด บีบีซีไทย รายงานว่า ทนายความฝ่ายโจทก์ถอนฟ้องผู้สื่อข่าวบีบีซีแล้ว โดยเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.60) เฮด และเอียน แรนซ์ ซึ่งตกเป็นจำเลยร่วมได้เดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดภูเก็ต โดยทั้งคู่ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

แถลงการณ์จากบีบีซี ระบุว่า "ฝ่ายโจทก์ ได้ถอนคำฟ้องผู้สื่อข่าวบีบีซีคนนี้ แต่คดีความของจำเลยร่วมยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ บีบีซียังไม่สามารถให้ความเห็นเพิ่มเติมได้ในขณะนี้"

Voice TV รายงานด้วยว่า เฮดถูกฟ้องร้องโดย ประทวน ธนารักษ์ ทนายความในจังหวัดภูเก็ต สืบเนื่องจากการรายงานข่าว เอียน แรนซ์ ชาวอังกฤษวัยเกษียณอายุ ถูกอดีตภรรยาชาวไทยปลอมลายเซ็นเพื่อจำหน่ายสินทรัพย์ของทั้งคู่ในจังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2015

รายงานข่าวดังกล่าวของบีบีซีเป็นการเปิดโปงขบวนการฉ้อโกงชาวต่างชาติซึ่งพัวพันกับเครือข่ายผู้ปล่อยเงินกู้และตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงพาดพิงทนายความรายหนึ่งซึ่งยอมรับเอกสารที่มีลายเซ็นของ แรนซ์ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ด้วย และปรากฏว่าเอกสารดังกล่าวมีการปลอมแปลงลายเซ็น ซึ่งส่งผลให้อดีตภรรยาของแรนซ์ถูกลงโทษจำคุกไปแล้ว

ด้าน ประทวน กล่าวว่าการรายงานข่าวของเฮด ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกมองว่าเป็นทนายความที่ไม่มีจริยธรรม จึงได้ฟ้องร้องเฮดและแรนซ์ ส่งผลให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและองค์กรปกป้องเสรีภาพสื่อแสดงความกังวลว่าคดีดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการรายงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนและการเปิดโปงขบวนการทุจริตในประเทศไทย จนกระทั่งมีการตัดสินใจถอนฟ้องเฮดในที่สุด และไม่มีการระบุสาเหตุที่ถอนฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ทนายความฝ่ายโจทก์ยังไม่ถอนฟ้องแรนซ์ และบีบีซีงดออกความเห็นต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาในชั้นศาล

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. เฮดและแรนซ์ ได้เดินทางไปให้ปากคำที่ศาลจังหวัดภูเก็ต และทางการมีคำสั่งยึดหนังสือเดินทางของทั้งคู่ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเฮดในฐานะผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาค ทำให้บีบีซีออกแถลงการณ์ว่าจะ "ยืนหยัดเคียงข้างผู้สื่อข่าว" พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการสื่อสารมวลชน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.