Posted: 20 Nov 2017 09:16 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

จากกิจกรรมวันเด็กสากลที่จัดใน 130 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยได้จัดเวทีสิทธิเด็กขึ้นที่รัฐสภา โดยมีตัวแทนเด็กกว่า 200 คนร่วมประกาศเจตนารมณ์ และยื่นข้อเสนอแนะเพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็ก

ตัวแทนเด็กและเยาวชนกว่า 200 คน จากสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนจากทั่วประเทศร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงต่อเด็กในประเทศไทย ณ เวทีสิทธิเด็กซึ่งจัดขึ้นที่รัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา (ภาพ โดยสุขุม ปรีชาพานิช)

20 พ.ย. 2560 องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รายงานว่าเนื่องในวันเด็กสากลซึ่งเป็นวันครบรอบของการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ในปีนี้ยูนิเซฟได้ทำการวิเคราะห์สถานการณ์เด็ก โดยพบว่า แม้ประเด็นด้านความเป็นอยู่ของเด็กจะมีความก้าวหน้าดีขึ้นในทั่วโลก แต่เด็ก 1 ใน 12 คนยังคงอาศัยอยู่ในประเทศที่สถานการณ์ทุกวันนี้เลวร้ายยิ่งกว่ารุ่นพ่อแม่ของพวกเขา

ผลการวิเคราะห์บ่งชี้ว่า เด็ก 180 ล้านคนใน 37 ประเทศมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องออกจากโรงเรียน หรือถูกฆ่าตายอย่างทารุณ มากกว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้เมื่อ 20 ปีก่อน

องค์การยูนิเซฟฯ รายงานด้วยว่า ในโอกาสวันสิทธิเด็กสากล ประเทศไทยได้จัดเวทีสิทธิเด็กขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา มีตัวแทนเด็กและเยาวชนกว่า 200 คนจากสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนจากทั่วประเทศได้จัดประชุมวิสามัญสภาเด็กและเยาวชน และพิธีประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็กขึ้นที่รัฐสภา โดยตัวแทนเด็กทั้งหมดเข้านั่งในห้องประชุมรัฐสภาและได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงต่อเด็กในประเทศไทย พร้อมประกาศเจตนารมณ์ของเด็กและเยาวชนโดยเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเพื่อให้พวกเขามีทักษะในการจัดการกับปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรง และให้มีระบบบริการทางสังคมที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อเด็กและเยาวชน

โธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประเทศไทย กล่าวว่า “ความคิดเห็นของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ และเมื่อพวกเขาพูด เราจะต้องรับฟัง เสียงของเด็กทำให้เรารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร และอะไรคือปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ นอกจากนี้ เรายังต้องทำงานร่วมกับเด็กและเยาวชน เปิดโอกาสให้พวกเขาแสดงความคิดเห็น และพัฒนาศักยภาพของพวกเขา และร่วมแก้ปัญหาไปด้วยกัน เด็กๆ จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของพวกเขาทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”

แม้ประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าไปมากในการพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็กในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัญหาหลายด้านที่ยังคงน่ากังวล โดยเฉพาะความรุนแรงต่อเด็กซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเด็กจำนวนมากในประเทศไทย ข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขในพ.ศ. 2558 ซึ่งรวบรวมจากศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาล พบว่า มีเด็กจำนวนเกือบ 11,000 คน หรือราว 30 คนต่อวัน เข้ารับการรักษาพยาบาลจากการถูกกระทำรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรงทางเพศ ในขณะที่ผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2559 ที่จัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่า เด็ก 3 ใน 4 คนที่มีอายุระหว่าง 1-14 ปีถูกสมาชิกครอบครัวลงโทษทางร่างกายหรือจิตใจภายในเดือนก่อนการสำรวจ

นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน ยูนิเซฟได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนจำนวน 1,118 คนในประเทศไทยผ่านเครือข่ายยูรีพอร์ต ซึ่งพบว่า ร้อยละ 86 ของเยาวชนที่ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขาเคยมีประสบการณ์หรือพบเห็นความรุนแรงในโรงเรียน แต่เกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 42) ไม่ได้บอกให้ใครทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

ปุณณพัทธ์ อรุณิชย์ตระกูล ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ซึ่งยื่นประกาศเจตนารมณ์ของเด็กๆ ต่อพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “นอกจากเด็กและเยาวชนจะต้องมีทักษะในการปกป้องตนเองจากความรุนแรงแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องมีศักยภาพในการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากความรุนแรง และระบบคุ้มครองเด็กก็ต้องมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการของเด็กๆ ด้วย”

องค์การยูนิเซฟฯ รายงานด้วยว่า เวทีสิทธิเด็กซึ่งจัดขึ้นที่รัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันสิทธิเด็กสากลในประเทศไทยและทั่วโลก มีผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกให้การสนับสนุนผ่านกิจกรรมต่างๆ และโซเชียลมีเดีย เช่น Friend of UNICEF นิชคุณ หรเวชกุล, ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่, พอลล่า เทย์เลอร์, พีช พชร จิราธิวัฒน์ หนูดี วนิษา เรซ นอกจากนี้กลุ่มเยาวชนจากสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยูนิเซฟ จะจัดการฉายหนังสั้นที่ผลิตโดยเยาวชน รอบปฐมทัศน์ ณ โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พร้อมการเสวนาในหัวข้อ “เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” และจะมีการฉายรอบบุคคลทั่วไปในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ รอบ 15.00 น. และ16.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร และ SF Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับเครือข่ายเด็กและเยาวชนในประเทศลาว เพื่อฉายรอบบุคคลทั่วไปในวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่โรงภาพยนตร์ Major Platinum Cineplex ศูนย์การค้า Vientiane Centre Mall ประเทศลาวอีกด้วย

หมายเหตุ: ประเทศที่สถานการณ์ของเด็กแย่ลงในประเด็นสำคัญอย่างน้อยหนึ่งประเด็น 37 ประเทศ ได้แก่ เบนิน, โบลิเวีย, แคเมอรูน, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, คอโมรอส, โกตดิวัวร์, จิบูตี, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, กัวเตมาลา, กายอานา, กินี-บิสเซา, จอร์แดน, อิรัก, คิริบาส, เลบานอน, ไลบีเรีย, ลิเบีย, มาดากัสการ์, มาลี, หมู่เกาะมาร์แชลล์, ไมโครนีเซีย, ปาเลา, ปารากวัย, สาธารณรัฐมอลโดวา, โรมาเนีย, เซนต์คิตส์แอนด์เนวิส, หมู่เกาะโซโลมอน, เซาท์ซูดาน, สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย, ทองกา, สาธารณรัฐแทนซาเนีย, ยูเครน,วานูอาตู, เยเมน, แซมเบีย และซิมบับเว รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ที่นี่

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.