Posted: 20 Nov 2017 11:08 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

'ทนายจูน' ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ารายงานตัวต่ออัยการ ในคดีซ่อนเร้นพยานหลักฐาน โดยพนักงานอัยการมีคำสั่งให้เลื่อนการรับทราบคำสั่งออกไปเป็นครั้งที่ 8 ในวันที่ 13 ก.พ.61


ภาพ ศิริกาญจน์เข้าเข้ารายงานตัวต่ออัยการ โดยมีตัวแทนจากสถานทูตและองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนเขาสังเกตการณ์ (ภาพจาก เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)

20 พ.ย. 2560 ความคืบหน้าของคดี ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ถูกพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามมีความเห็นสั่งฟ้องฐานซ่อนเร้นพยานหลักฐานและทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามมาตรา 142 และมาตรา 368 ประมวลกฎหมายอาญา จากการทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ในการคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 14 นักกิจกรรมกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ต่อศาลทหาร และปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นรถยนต์เพื่อยึดเอาโทรศัพท์มือถือของลูกความ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีหมายค้นและปราศจากเหตุอันสมควรที่จะค้นรถ ในคืนวันที่ 26 ถึงเช้าวันที่ 27 มิ.ย. 2558 นั้น

ล่าสุดวันนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศิริกาญจน์ เข้ารายงานตัวต่ออัยการ ในคดีซ่อนเร้นพยานหลักฐาน โดยพนักงานอัยการมีคำสั่งให้เลื่อนการรับทราบคำสั่งออกไปเป็นครั้งที่ 8 ในวันที่ 13 ก.พ.61 เวลา 9.30 น. โดย พนักงานอัยการแจ้งว่าคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาคำสั่งของอัยการสูงสุด จึงเลื่อนการรับฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องออกไปอีกนัดหนึ่ง รวมระยะเวลาในการพิจารณาทำคำสั่งกว่า 18 เดือน นับตั้งแต่พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2559 และการพิจารณายังไม่เสร็จสิ้น

นอกจากนี้ รายงานข่าวจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังระบุด้วยว่า ระหว่างการรายงานตัวได้มีตัวแทนจากสถานทูตแคนนาดา สวีเดน เนเธอแลนด์ เยอรมัน สหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการนิติศาสตร์สากลและแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์ และติดตามความคืบหน้าของคดีด้วย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ทนายความยังศาลทหารเมื่อวันที่ 26-27 มิ.ย. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอเข้าค้นรถยนต์ของศิริกาญจน์ซึ่งจอดหน้าศาลทหารโดยไม่มีหมายค้น ศิริกาญจน์จึงปฏิเสธไม่ให้ทำการค้นรถ โดยปราศจากหมาย ซึ่งเป็นที่มาของคดีนี้ รวมถึงคดีร่วมกันยุยงปลุกปั่นและมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และคดีแจ้งความเท็จ ซึ่งทั้งสองคดียังอยู่ในชั้นสอบสวน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.