ที่มาเฟสบุ๊ค อานนท์ นำภา
Posted: 31 Jan 2018 09:13 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
ทนายอานนท์ ประกาศไม่ยอมรับกระบวนการใช้กฎหมายเล่นงานกลุ่มค้าน คสช. สืบทอดอำนาจ พร้อมระบุสถานที่อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศาลทหารที่ว่าความ ตลอดเดือน ก.พ.นี้ ลั่นเชิญมาจับได้ทุกเมื่อ และจะทำหน้าที่ทนายความให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจนวินาทีสุดท้าย
31 ม.ค. 2561 ภายหลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดีประชาชน นักกิจกรรมและนักศึกษา 7 คน ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ที่ทางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวกิจกรรม ประชาชนเหยียบเบรค ต้าน คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.และวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน และแจ้งความเพิ่ม 39 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 นั้น
ล่าสุด อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและหนึ่งในผู้ถูกแจ้งความคดีดังกล่าว โพสต์แถลงการณ์ในนามส่วนตัว ผ่านเฟสบุ๊คตัวเองประกาศไม่ยอมรับและไม่ร่วมสังฆกรรมต่อกระบวนการอันอัปยศในครั้งนี้ และยืนยันว่าการชุมนุมและการแสดงออกทางการเมืองของผมและเพื่อนเป็นไปโดยสุจริต และมีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะเรียกร้องให้ประเทศกลับมาปกครองในระบอบประชาธิปไตย
เรียก 39 คน รับข้อหาฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม 2 ก.พ.นี้ อ้างร่วมเหยียบเบรค คสช. สืบทอดอำนาจ
คสช. แจ้ง 2 ข้อหา 7 คนเหยียบเบรค คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง
ประชาชนเหยียบเบรค ต้าน คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง
อานนท์ ระบุว่า เดิม ก่อนที่จะมีข่าวตำรวจทหารไปแจ้งจับชาวบ้าน 39 คนตามที่ทราบกันวัน ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ตนติดว่าความที่ศาลทหาร และจะส่งทนายความไปขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กับ พนักงานสอบสวน ไปเป็นวันที่ตนไม่มีขึ้นศาลคือเดือนมีนาคม แต่จากสถานการณ์ตอนนี้เป็นที่เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้รับใช้เผด็จการจงใจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการสกัดกั้นการชุมนุมเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารในวันที่ 10 ก.พ.ที่จะถึงนี้ การแจ้งความจับชาวบ้าน 39 คน จากการเรียกร้องการเลือกตั้ง คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมืออย่างต่ำทรามและตนไม่อาจยอมรับได้
"เชิญมาจับผมได้ทุกเมื่อ ผมจะไม่หลบหนีไปไหน และจะทำหน้าที่ทนายความให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจนวินาทีสุดท้าย" อานนท์ ประกาศ พร้อมเปิดเผยที่อยู่ของตนเองในฐานะทนายความคิดีต่างๆ ตั้งแต่ ศาลทหารกรุงเทพ ศาลทหารชลบุรี เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลจังหวัดภูเขียว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ตลอดเดือน ก.พ.นี้
อุทธรณ์ปรับ 1 พัน ทนายอานนท์ คดียืนเฉยๆ ร้อง 'ปล่อยวัฒนา'
ทนายอานนท์ ประกาศไม่ยอมรับกระบวนการใช้กฎหมายเล่นงานกลุ่มค้าน คสช. สืบทอดอำนาจ พร้อมระบุสถานที่อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศาลทหารที่ว่าความ ตลอดเดือน ก.พ.นี้ ลั่นเชิญมาจับได้ทุกเมื่อ และจะทำหน้าที่ทนายความให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจนวินาทีสุดท้าย
31 ม.ค. 2561 ภายหลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดีประชาชน นักกิจกรรมและนักศึกษา 7 คน ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ที่ทางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวกิจกรรม ประชาชนเหยียบเบรค ต้าน คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.และวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน และแจ้งความเพิ่ม 39 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 นั้น
ล่าสุด อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและหนึ่งในผู้ถูกแจ้งความคดีดังกล่าว โพสต์แถลงการณ์ในนามส่วนตัว ผ่านเฟสบุ๊คตัวเองประกาศไม่ยอมรับและไม่ร่วมสังฆกรรมต่อกระบวนการอันอัปยศในครั้งนี้ และยืนยันว่าการชุมนุมและการแสดงออกทางการเมืองของผมและเพื่อนเป็นไปโดยสุจริต และมีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะเรียกร้องให้ประเทศกลับมาปกครองในระบอบประชาธิปไตย
เรียก 39 คน รับข้อหาฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม 2 ก.พ.นี้ อ้างร่วมเหยียบเบรค คสช. สืบทอดอำนาจ
คสช. แจ้ง 2 ข้อหา 7 คนเหยียบเบรค คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง
ประชาชนเหยียบเบรค ต้าน คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง
อานนท์ ระบุว่า เดิม ก่อนที่จะมีข่าวตำรวจทหารไปแจ้งจับชาวบ้าน 39 คนตามที่ทราบกันวัน ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ตนติดว่าความที่ศาลทหาร และจะส่งทนายความไปขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กับ พนักงานสอบสวน ไปเป็นวันที่ตนไม่มีขึ้นศาลคือเดือนมีนาคม แต่จากสถานการณ์ตอนนี้เป็นที่เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้รับใช้เผด็จการจงใจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการสกัดกั้นการชุมนุมเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารในวันที่ 10 ก.พ.ที่จะถึงนี้ การแจ้งความจับชาวบ้าน 39 คน จากการเรียกร้องการเลือกตั้ง คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมืออย่างต่ำทรามและตนไม่อาจยอมรับได้
"เชิญมาจับผมได้ทุกเมื่อ ผมจะไม่หลบหนีไปไหน และจะทำหน้าที่ทนายความให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจนวินาทีสุดท้าย" อานนท์ ประกาศ พร้อมเปิดเผยที่อยู่ของตนเองในฐานะทนายความคิดีต่างๆ ตั้งแต่ ศาลทหารกรุงเทพ ศาลทหารชลบุรี เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลจังหวัดภูเขียว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ตลอดเดือน ก.พ.นี้
อุทธรณ์ปรับ 1 พัน ทนายอานนท์ คดียืนเฉยๆ ร้อง 'ปล่อยวัฒนา'
วันเดียวกัน (31 ม.ค.61) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานด้วยว่า วันนี้ ศาลแขวงดุสิตอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี “ยืนเฉยๆ” ที่ อานนท์ ถูกฟ้องในข้อหาไม่แจ้งจัดการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากการทำกิจกรรมยืนเฉยๆ ที่วิคตอรี่พ้อยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2559 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว "วัฒนา เมืองสุข” จากค่ายทหาร ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับ 1,000 บาท ตามศาลชั้นต้น
ศาลพิจารณาว่า ประเด็นโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ ศาลเห็นว่าคดีนี้ไม่มีการจับกุมแต่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและโจทก์ยื่นฟ้องได้ตามกรอบเวลาที่โจทก์เคยขอผลัดฟ้องไว้ ศาลเห็นว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง
ส่วนประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ว่าการชุมนุมทำไปโดยสุจริตและเป็นเสรีภาพ ศาลเห็นว่าโจทก์ฟ้องในข้อหาว่าจำเลยไม่แจ้งจัดการชุมนุมภายใน 24 ชม. ไม่ได้ฟ้องว่าวัตถุประสงค์การชุมนุมผิดอย่างไร การยืนเฉยๆ ของจำเลยเป็นการกระทำที่แยกขาดจากกันกับการกระทำความผิดที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้
อีกทั้งจำเลยไม่ได้นำพยานเข้าสืบหักล้างพยานของฝ่ายโจทก์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นปรับเงินจำนวน 1,000 บาท
[full-post]
ศาลพิจารณาว่า ประเด็นโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ ศาลเห็นว่าคดีนี้ไม่มีการจับกุมแต่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและโจทก์ยื่นฟ้องได้ตามกรอบเวลาที่โจทก์เคยขอผลัดฟ้องไว้ ศาลเห็นว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง
ส่วนประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ว่าการชุมนุมทำไปโดยสุจริตและเป็นเสรีภาพ ศาลเห็นว่าโจทก์ฟ้องในข้อหาว่าจำเลยไม่แจ้งจัดการชุมนุมภายใน 24 ชม. ไม่ได้ฟ้องว่าวัตถุประสงค์การชุมนุมผิดอย่างไร การยืนเฉยๆ ของจำเลยเป็นการกระทำที่แยกขาดจากกันกับการกระทำความผิดที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้
อีกทั้งจำเลยไม่ได้นำพยานเข้าสืบหักล้างพยานของฝ่ายโจทก์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นปรับเงินจำนวน 1,000 บาท
แสดงความคิดเห็น