Posted: 31 Mar 2018 03:09 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ปณิธาน เมฆาวงษ์: สัมภาษณ์/เรียบเรียง
อิศเรศ เทวาหุดี: ภาพประกอบ/ลำดับภาพ

สัมภาษณ์พิเศษอดีต ผบ.ตร. หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ผู้ประกาศกร้าว “หากผมมีอำนาจจะยกเลิกทหารเกณฑ์” ตอบทุกคำถาม ทหารเกณฑ์มีไว้ทำไม ยอดเรียกทหารเข้ากรมกอง 1 แสน 4 พันมากเกินไปหรือไม่ ถ้าไม่อยากเป็นทหารไม่ใช่ลูกผู้ชายหรือเปล่า และองค์กรขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “กองทัพ” มีอะไรต้องปฏิรูปบ้าง

นับได้ว่าตั้งแต่มีการเกณฑ์ทหารในประเทศไทยจากข้อมูลที่พอจะหาได้พบว่าในปี 2561 เป็นปีที่มียอดความต้องการทหารกองประจำการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 104,734 คือตัวเลขล่าสุดที่กองทัพออกมาแถลงข่าวเรียกพลเรือนเข้ากรมกอง ข้อมูลที่ย้อนกลับไปได้ไกลที่สุดคือปี 2537 ในปีนั่นมีความต้องการทหารทั้งหมด 85,080 นาย และตลอดเวลา 24 ปีความต้องการทหารเกณฑ์น้อยที่สุดอยู่ในปี 2541 ตัวเลขอยู่ที่ 74,004 นาย ก่อนที่จะขยับกลับมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทำลายสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

คำถามเดียวกันดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศว่า ทำไมกองทัพจึงมีความต้องการทหารเกณฑ์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ข้อมูลเชิงสถิติจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า อัตราการเกิดของประชากรชายไทยลงไปเรื่อยๆ ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงกับจำนวนทหารเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้น หรือเป็นได้ไหมว่าบ้านเมืองเรากำลังเผชิญหากับปัญหาสงคราม คำตอบก็คือ ไม่

ทหารเกณฑ์หลายคนที่เข้าไปอยู่ในกรมกองก็ส่งเสียงออกมาว่า งานของพวกเขาส่วนใหญ่คือ การเป็นฝูงบินต่ำ รบกับหญ้า ฆ่ากับมด คุณภาพชีวิตตามมีตามเกิด เรียกร้องสิทธิมากก็โดน “แดก” ชนชั้นนายว่า ชนชั้นที่ถูกมองเป็นข้าขี้ก็ต้องทำตาม พวกที่สมัครใจไปเป็นทหารก็พอมี แต่คนที่ไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์แต่ต้องจากบ้าน จากงาน จากเมียไปเพราะใบแดงก็มีเยอะ ข่าวคราวทหารเกณฑ์ถูกซ่อม ถูกซ้อม ตายคาค่ายก็มีให้เห็นมาตลอด แต่ก็นั่นแหละได้แต่อ่าน นั่งทำตาปริบๆ แล้วก็คิดในใจ เราทำอะไรกันได้บ้าง

ความคิด ข้อเสนอ เรื่องการยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร มีการพูดถึงอยู่หลายครั้ง งานวิจัยที่ทหารเป็นคนศึกษาวิธีการทดแทนการเรียกเกณฑ์ทหารแบบบังคับก็มีให้เห็น แต่ก็ลอยอยู่ในอินเทอร์เน็ตรอใครสักคนโหลดไปอ่าน หรือไม่ก็ถูกวางให้ฝุ่นเกาะอยู่เงียบๆ ในชั้นวางหนังสือของกองทัพ จะกี่ปีต่อกี่ปีก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน ท่ามกลางความหดหู่ ความอดทนอดกลั้นของชายไทยผู้มีอายุถึงวัยเกณฑ์ทหาร ชายผู้หนึ่งมีไอดีติดตัวเป็นถึง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หน้านิ่ง ตาแข็ง น้ำเสียงหนักแน่น อัพโหลดคลิปสัมภาษณ์ลงช่องยูทูป “เสียงเสรี SEREE VOICE” ประกาศกร้าวว่า “หากผมมีอำนาจจะยกเลิกทหารเกณฑ์”

ทหารเกณฑ์มีไว้ทำไม ทำไมถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากเป็นทหารเท่ากับไม่รักชาติ ไม่ใช่ลูกผู้ชายใช่ไหม และองค์กรขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “กองทัพ” มีอะไรต้องปฎิรูปบ้าง ประชาไทสัมภาษณ์พิเศษชายที่ชื่อว่า เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หนึ่งในอีกหลายคนที่กล้าพูดอะไรอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจใยดีว่ายุคนี้ใครใหญ่ ใครคุม หรือจริงๆ แล้วมีใครที่ใหญ่กว่า คสช.

000000


รัฐที่ไม่มีสงคราม แต่ยังเรียกเกณฑ์ทหารจำนวนมาก เป็นรัฐที่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

เสรีพิศุทธ์ เริ่มต้นด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจำนวนทหารเกณฑ์จึงเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะที่อัตราการเกิดของประชากรไทยชายกลับไม่ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต อีกทั้งสถานการณ์ในประเทศไทยก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับสภาวะสงคราม เขาชี้ให้เห็นว่าเหตุผลที่แท้จริงอาจมีบางสิ่งแฝงเร้นอยู่

“ก่อนหน้านี้เราก็รู้ว่าทหารเกณฑ์ไปก็เพื่อทุจริตกัน ทุจริตกันตั้งแต่ก่อนเข้า ใครเกณฑ์ ใครไม่เกณฑ์ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ หรือแม้กระทั่งจะอ้างป่วยเอาใบรับรองแพทย์ก็มีราคา เมื่อเกณฑ์ไปแล้ว เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม หมวก กางกุ้งกางเกง เบี้ยเลี้ยง ค่ายารักษาโรค งบการฝึกเขามีให้หมด คุณโกงเขาหรือเปล่า คุณทำตามระเบียบหรือเปล่า มีเสียงที่บ่นมาเยอะแยะ บอกถูกโกงกันทั้งนั้น”

อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปให้เห็นภาพชัดว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนทหารเกณฑ์นั้น มีความเกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์ของกองทัพ จากภาษีของประชาชน โดยอาศัยกฎหมายที่บังคับชายไทยอายุ 20 ปีจะต้องเข้ารับการตรวจคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ แม้บางคนที่เรียนอยู่ หรือประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวจะสามารถผ่อนผันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาเกณฑ์ทหารอยู่ดี ไม่เว้นแม้แต่คนบวชเป็นพระที่ต้องห่มจีวรมาเข้ารับการตรวจคัดเลือก สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการเกณฑ์ทหารถูกมองว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับประเทศไทย

เสรีพิศุทธ์ หยิบข้อมูลขึ้นมาชี้ให้เห็นต่อไปว่า ในขณะที่ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการเกณฑ์ทหาร แต่มีอีกหลายประเทศที่ยกเลิกกการเกณฑ์ทหารไปแล้ว เช่น มาเลเชีย ญี่ปุ่น ออสเตเรีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ปากีสถาน อังกฤษ ฝรังเศส เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

“ออสเตรเลียยกเลิกตั้งแต่ปี 2512 เลิกมา 50 ปีแล้ว เบลเยียมยกเลิกตั้งแต่ปี 2537 บัลแกเรีย กับโครเอเซียยกเลิกเมื่อปี 2551 ฝรั่งเศสยกเลิกในปี 2554 เลบานนอนยกเลิกในปี 2550 โรมาเนียยกเลิกเมื่อปี 2550 แต่ไทยยังไม่ยอมยกเลิก ทั้งๆ ที่องค์การสหประชาชาติมีการประชุมปรึกษาหารือกัน สรุปว่า การเกณฑ์ทหารขัดกับปฎิญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนซึ่งที่ประชุมใหญ่สมัชชาแห่งประชาชาติให้การรับรองเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2491 70 ปีมาแล้ว แต่ไทยไม่เห็นด้วย ก็เป็นสิทธิ ประเทศอื่นๆ ที่ยังเกณฑ์ทหารกันก็มี แต่เกณฑ์แล้วมีการทุจริตแบบไทยหรือเปล่า เขาเอาไปเป็นแรงงานทาสหรือเปล่า”

เสรีพิศุทธ์ ยกคำพูดของของมหาตมา คานธี ที่เคยกล่าวว่า รัฐที่คิดว่าสามารถบังคนประชาชนให้ไปร่วมสงครามได้ตามใจชอบ ย่อมไม่มีวันที่จะคิดถึงคุณค่าและความสุขของประชาชนในยามสงบ พูดให้ง่ายคือรัฐใดที่เกณฑ์ทหารแม้ในยามศึกสงครามก็ยังถือเป็นรัฐที่มองไม่เห็นคุณค่าและความสุขของประชาชน แต่ในประเทศที่ไม่มีสภาวะสงครามแต่ยังเกณฑ์ทหาร และเรียกเกณฑ์จำนวนมาก เสรีพิศุทธ์ เห็นว่าเป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความสุขของคนในชาติมากยิ่งกว่า

มากไปกว่านั้นเขาเห็นว่า การเกณฑ์ทหาร นำมาซึ่งความสูญเสียและสิ้นเปลืองในทางเศรษฐกิจ ผลตอบแทนที่ได้ เมื่อเทียบกับต้นทุนที่รัฐต้องจ่าย และประชาชนต้องจ่ายกับการเกณฑ์ทหารนั้นอยู่ในระดับต่ำ และเป็นการใช้แรงงานของชาติจำนวนมากไม่ในทางที่ไม่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของผลิตมวลรวมของประเทศ

“สรุปแล้วเนี่ยมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยเรื่องการเกณฑ์ทหาร ผมเองเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ไม่ได้ลิ้มรสในเรื่องของทหารเกณฑ์หรอก แต่ก็รู้ว่ารุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานที่มันไปเกณฑ์ทหารมันเป็นอย่างไร ทหารเนี่ยใช้ช่องทางนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำส่วนหนึ่ง ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของหน่วยเลย มีทั้งโกงก่อนจะเข้า ไม่เกณฑ์จ่ายเท่าไหร่ เอาใบรับรองแพทย์จ่ายเท่าไหร่ แล้วให้สัสดีอีกเท่าไหร่ หรือพอเข้าไปแล้วไปเป็นทหารเขาก็ตัดงบจากเสื้อผ้า เครื่องแบบ หมวก อุปกรณ์การฝึก ถุงเท้า รองเท้า ค่าอาหาร เงินเดือน ทหารเกณฑ์ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างตามนี้ไหม มันเป็นช่องทางการทุจริต เราถึงได้ข่าวกันมาตลอดเวลาว่ามีการปล่อยทหารกลับบ้านแล้วให้นายรับเบี้ยเลี้ยงแทน หรือถ้าไม่กลับบ้านก็ไปอยู่บ้านนายทหารไปรับใช้ ตัดหญ้า ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาด ขับรถทำนู่นทำนี่ แม้กระทั่งซักกางเกงในให้เมียนายก็มี หรือเอาไปเป็นเด็กเสริฟร้านอาหารก็มีเป็นข่าวอยู่ เอาไปใช้แต่เรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น เกษียณไปกี่ปีก็ยังมีทหารรับใช้ ในขณะที่งบการฝึกเบิกเต็มแต่ไม่ได้ใช้จริง แล้วงบมันหายไปไหนหมด”

เสรีพิสุทธ์ ชี้ให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วทหารเกณฑ์ของไทยแทบจะไม่ได้มีการฝึกมากนัก หลังจากฝึกช่วง 10 สัปดาห์เสร็จแล้วมีการแยกเหล่าทหาร ทหารใหม่แต่ละคนจะไปอยู่สังกัดตามกรม หรือกองพันต่างๆ หลังจากนั้นจะมีเพียงการฝึกเบื้องต้นเท่านั้นเช่น การฝึกบุคคลท่ามือเปล่า และบุคคลประกอบอาวุธ แต่มีน้อยที่จะได้จับปืน หรือฝึกการใช้อาวุธ ในขณะที่งบการฝึกมักจะมีการบังคับให้เซ็นเบิกเต็มจำนวน

หัวอกทหารเกณฑ์เป็นรั้วของชาติ/ชาตินักรบ หรือเป็นแค่ขี้ข้านายทหาร

ก่อนหน้านี้นี้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊คพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้โพสต์คลิปสัมภาษณ์เรื่องข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หลังจากนั้นมีหลายคนที่เป็นทหารเกณฑ์ หรือเคยเป็นทหารเกณฑ์เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น เสรีพิศุทธ์ รวบรวมข้อมูบทั้งหมดมาเพื่อชี้ให้เห็นว่า การเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ และเป็นไปเพื่อการทุจริตของกองทัพ และเป็นสิ่งที่ทำลายอนาคตของคนวัยหนุ่ม

- เห็นด้วยครับท่าน ผมเป็นคนหนึ่งที่หาเงินส่งเสียงตัวเองเรียนด้วยทำงานด้วยตั้งแต่อายุ 16 บัดนี้จบปริญญาตรีแล้ว อายุ 24 กำลังจะสร้างอนาคตให้ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นกำไรชีวิต หน้าที่การงานก็กำลังไปได้ เลยตัดสินใจซื้อบ้านซื้อรถ ให้แม่ให้น้องได้สุขสบาย แต่มาเผชิญอุปสรรคคือการเกณฑ์ทหาร ผมอาจจะต้องทิ้งภาระในการผ่อน บ้านผ่อนรถ ซึ่งทางบ้านไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย แทนที่เด็กไทยคนหนึ่ง จะได้สร้างอนาคตตอบแทนพ่อแม่ กลับต้องเสียเวลาไป 1-2 ปี แทนที่จะได้สร้างอนาคตตั้งแต่อายุน้อยๆ ต้องไปเกณฑ์ทหาร และต้องรอเวลาให้พ้นการเกณฑ์อีก

- จริงครับท่าน ผมยังเจอเลยทุกวันนี้ เอาทหารมาใช้เพราะไม่ต้องจ่ายเงินเดือนแพง จ่ายก็ได้ไม่จ่ายก็ได้ ส่งมาเป็นพลขับ ผมละอึดอัดใจมีเรื่องเล่าเยอะแยะ อยากให้มีคนเอาจริง ถึงตอนนี้ผมเป็นทหารอยู่ก็เถอะ เห็นพวกกูเป็นคนโง่หรือไงที่ต้องมาเป็นขี้ข้า ของข้าราชการและเมียและลูกของข้าราชการนอกระบบ จนถึงทุกวันนี้ได้แต่กัดฟันสู้จนจะเป็นบ้า รอปลดประจำการ พ.ย. 2561

-ทหารเกณฑ์ทุกวันนี้ร้อยละ 50 ไม่ได้เป็นทหารจริงฝึกแค่ 3 เดือน แล้วจะมีครูฝึกเรียกไปคุยให้หนีไปได้โดยไม่ต้องึก แต่ต้องยกเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงทั้งหมดให้ครูฝึกเพื่อให้ออกไปใช้ชีวิตตามปกติพอถึงเวลา 2 ปีครบก็กลับมาเรียกตัวไปปลดประจำการ เรื่องจริงของการทุจริตในแวดวงทหารยังไม่นับการรับจ้างออกใบรับรองแพทย์ใบละ 40,000 บาท

-ผมว่าทหารเกณฑ์เอาไปรบจริงๆ ก็ตายหมด ฝึกแค่สองเดือนวันหนึ่งก็ฝึกแค่ไม่กี่ชั่วโมง รบกับหญ้าฆ่ากับมดยังใช้เวลาเยอะกว่าอีก ส่วนพวกทหารเกณณ์ที่ลงบ้านนายก็ไปรับใช้นายซักผ้าล้างจาน กวาดใบไม้ ทำกับข้าว ขับรถ ทำทุกอย่าง เงินเดือนหน่วยไม่ได้รับมีคนรับให้ ถ้ารบกันจริงต้องใช้ทหารพราน เพราะเป็นทหารรับจ้าง ทหารเกณฑ์ฝึกสองสามเดือนจะไปรบกับใคร

-เงินเดือนทหารเบิกจากกระทรวง 9,700 แต่รับจริง 6,500 หลานผมเป็นทหารเกณฑ์ประจำอยู่ลพบุรี ทหารหน่วยนี้มี 70 นาย แต่มียอดเบิก 300

-เงินส่งรถที่ผ่อนส่งถูกยึดหมด บางคนเมียก็ทิ้ง อาหารฟรี เบี้ยเลี้ยงฟรี แม่งก็หักจากเงินเดือน จะให้เงินเดือนกูเต็มๆ หน่อยก็ไม่ได้ เบี้ยเลี้ยง 750 ต่ออาทิตย์ รับจริงแค่ 250 บางเดือนเงินไม่พอต้องของจากทางบ้าน มีคนถามผมว่า 2 ปี ได้อะไรจากการเป็นทหารผมตอบได้เลยว่า เป็นคนที่ล้มละลาย

- สิ่งที่ได้กลับมากูต้องอดทนอยู่รอดให้ได้ 2 ปี เหมือนการรับใช้พวกบ้าอำนาจ เลือกมาเป็นทหารกูอยากรับใช้ประเทศชาติ ที่ไหนได้ไปตัดหญ้า แต่งต้นไม้ ทำความสะอาดให้พวกบ้านนายร้อย นายพัน นายพล

- เคยถามจ่าว่าทำไมอาหารมันเน่าจัง จ่าบอกว่าต้องคุมงบ ผู้พันเขาขอมา เหี้ยจริงๆ กูแดกแต่ต้มผัก แกงจืดผักไร่กับวิญญาณหมู

“นี่คือความเห็นของพวกเขา ฉะนั้นเกณฑ์ไปทหารแสนคน เพิ่มยอดไปทำไม ก็เพิ่มยอดเพื่อการนี้แหละ เอาไปเป็นประโยชน์ของพวกทหาร ตอนเกณฑ์ก็เป็นผลประโยชน์ของพวกสัสดี แต่พอเกณฑ์แล้วส่งไปอยู่กองพัน กองร้อยต่างๆ ก็จะเป็นพวกทหารที่จะไปกินงบประมาณ แล้วมันทำลายประเทศชาติขนาดไหน เพราะการที่ประชาชนไม่ได้ประกอบอาชีพของตน แล้วต้องไปเป็นทหารมันไม่ทำให้ GDP เพิ่ม เป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล”

“คนวัยนี้อายุ 20 กว่า เป็นแรงงานของชาติที่จะต้องทำนู่น ทำนี่ แต่แทนที่จะได้เข้าไปเกณฑ์ทหารและเป็นทหารรับใช้ชาติจริงๆ อย่างสง่าผ่าเผยแบบลูกผู้ชายจริงๆ กลับกลายเป็นการทุจริตกัน ก็ให้ทหารตอบมาละกันว่าไม่มีทุจริต ผมไม่ได้มาฟังแค่ที่คอมเม้นกันมานะ ผมมีเพื่อน 4 เหล่า มันก็คุยกันมาตลอด 40 ปี ก็รู้กันหมดข้อเท็จจริงต่างๆ เหล่านี้ปฏิเสธไม่ได้เลย”


ทหารไม่ต้องเกณฑ์ ใช้ระบบสมัครใจ สร้างสวัสดิการที่ดี ทำให้เป็นทหารมืออาชีพ ไม่ใช่ขี้ข้ารองมือรองตีน

เสรีพิศุทธ์ พูดถึงข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเพราะเห็นว่า เป็นการบังคบคนโดยไม่มีความสมัคร หากประเทศชาติที่ความจำเป็นต้องสู้รบ ประสิทธิภาพในการสงครามจะไม่สามารถสู้ใครได้เลยเพราะคนที่ถูกเกณฑ์ไปรบคือคนที่ไม่สมัครใจ ฉะนั้นทางแก้คือ การยกเลิกทหารเกณฑ์และรับเฉพาะคนที่สมัครใจเท่านั้น

“ถ้าบอกว่าประเทศมีศึกสงคราม จะต้องเอาทหารไปสู้รบ คุณอ้างแบบนั้น แต่คุณเอาคนที่ไม่ได้ตั้งใจไปรบ แล้วมันจะชนะเขาไหม นี่ยังไม่ต้องพูดถึงระบบระยำๆ ที่กันมาตลอด ถึงคุณเอาเขามาฝึกแต่เขาไม่อยากรบ ก็ไม่ชนะใครเขาหรอก จริงๆ มันควรงดเลิกทหารเกณฑ์แล้วแก้ไขด้วยวิธีการรับสมัครบุคคลที่ที่อยากเป็นทหารจริงๆ มารับใช้ชาติ มันมีลูกชาวบ้านที่มีงานทำเยอะไป ต้องเปิดรับสมัครมีเงินเดือนมีสวัสดิการที่ดี ใครก็อยากเข้ามาเป็น แต่ถ้าเป็นคนที่เขามีรายได้ทางอื่นอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง ดารา นักร้องค่าตัวเขาวันละเท่าไหร่ ไปออกงานที่ค่าตัวเขา 2-3 แสนต่อวัน แล้วมาจับเขาเกณฑ์ทหาร พอมาเป็นทหาร 2 ปีออกไปหมดละงาน ไม่มีใครจ้างก็เสียอนาคตหมด”

“เขาทำมาหากิน เขาเสียภาษีก็ถือว่าเขาช่วยชาติแล้ว อย่างน้องทำงาน ทำอาชีพอิสระน้องเสียภาษีเปล่า ก็เสีย ก็ช่วยชาติแล้ว การช่วยชาติก็คือการเสียภาษี สำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่าช่วยชาติต้องไปเป็นทหาร ไม่ใช่ ไม่มีความจำเป็น”

เสรีพิศุทธ์ เห็นการยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตในกองทัพได้ แต่ต้องเปลี่ยนกระบวนการในการฝึกทหารทั้งหมด โดยต้องมีการฝึกอบรบอย่างจริงจัง ให้เรียนรู้วิชาการของทหาร แล้วเปิดโอกาสให้มีสิทธิสอบเป็นนายสิบ หรือมีการฝึกอาชีพให้เพื่อให้พลทหารสามารถออกไปประกอบอาชีพได้
ไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย คุณเอาอะไรมาคิดอ่ะ

เมื่อถามว่าส่วนใหญ่แล้วครหาของคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารมักถูกประณามคือ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย เสรีพิศุทธ์โต้กลับอย่างฉับพลัน

“ถ้าไม่เกณฑ์ทหารไม่ใช่ลูกผู้ชายเหรอ คุณเอาอะไรมาคิดอ่ะ แล้วคนเป็นทหารเนี่ยนะ จบโรงเรียนเตรียมทหารด้วยนะ จบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าด้วยนะ ไอ้นาฬิกา 26 เรือนยังไม่ยอมรับมึงลูกผู้ชายเหรอ ฮ่ะ มึงลูกผู้ชายเหรอ ตอนแรกบอกแหวนแม่ พอผมบอกแหวนแม่ได้ไง แม่นิ้วแค่นี้ไปใส่นิ้วคุณได้ไงนิ้วไง นิ้วอย่างกับควาย ไปใส่ได้ได้ไง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแหวนพ่อ ส่วนนาฬิกาไปยัดเยียดคนตาย 26 เรือน อย่างนี้ลูกผู้ชายเหรอ เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยว เกี่ยวมั้ย คุณเรียนสถาบันนี้ หลักของชาติเลย คุณลูกผู้ชายเปล่า”

สั้นกระชับ ได้ใจความ...... แทบจะไม่เหลืออะไรให้พูดอีก

เมื่อถามต่อว่า เห็นมีหลายคนเคยพูดเรื่องทหารเกณฑ์มาเยอะ แต่ในทางปฏิบัติเคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่ เสรีพิศุทธ์ให้ความเห็นว่า เป็นไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะทหารเกณฑ์คือ อู่ข้าวอู่น้ำ ของกองทัพ

“ไม่มีเหรอ ทหารจะไปยอมได้ไง ก็นี่มันอู่ข้าวอู่น้ำเขา มันทจุริตไปตั้งแต่ก่อนเข้า แล้วก็เข้าไปก็ช่วยทหารในระบบราชการไปจนถึงทหารเกษียณ บางคนเกษียณไป 15 ปียังมีทหารรับใช้อยู่เลย แล้วมีทหารไว้ทำไมอ่ะ เอาไว้รับใช้พวกทหารเกณฑ์เนี่ยเหรอ มันต้องเลิกดิ ตำรวจมีไหมละ พวกเป็นนายพลเขาก็ไม่อยู่บ้านหลวงกันแล้ว นี่ทหารเป็น ผบ.เหล่าทัพ มีบ้านไม่รู้กี่หลังต่อกี่หลัง ปลูกกันอยู่ในค่ายทหารนั่นแหละ น้ำหลวง ไฟหลวง คนรับใช้ฟรีหมด ของผมบ้านก็ปลูกเองอยู่มาตั้งแต่เป็นรองผู้การ บ้านตัวเอง น้ำไฟตัวเอง ตำรวจรับใช้ก็ไม่มี แล้วทำไมทหารต้องพิเศษว่า ข้าราชการอื่นละ”

เมื่อถามต่อว่า ในเมื่อทหารก็มีอำนาจมากในปัจจุบัน และก็ไม่ยอมเปลี่ยนเปลี่ยนอะไรสักอย่าง จะต้องทำอย่างไรถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า

“คุณถามว่าต้องทำไง คุณเอาคนไม่มีปัญหาไปทำมันก็ทำไม่ได้หรอก คุณต้องเอาผมไปทำ ผมถึงจะทำได้ เข้าใจไหม เอาใครละ ไม่อย่างพูดแค่เห็นหน้าทหารก็กลัวแล้ว ของผมมันจะมีอะไร ประยุทธ์มันก็รุ่นน้องผม เลือกตั้งเมื่อไหร่เอาผมไปดิ เดี๋ยวผมไปจัดการ”

เมื่อถามต่อว่า สรุปว่า ยกเลิกทหารเกณฑ์คือ นโยบาย ของพรรคเสรีรวมไทย เสรีพิศุทธ์ตอบว่า

“นี่มันส่วนนิดหน่อย ผมคิดจะปฏิรูปทหารทั้งกองทัพ ไอ้เรื่องทหารเกณฑ์มันนิดเดียวจิ๊บจ๊อย....”

000000

โปรดติดตามต่อไป ว่าด้วยความคิดเรื่องการปฏิรูปกองทัพของ เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เร็วๆ นี้

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.