Posted: 30 Nov 2018 11:12 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-12-01 14:12
ใบตองแห้ง
ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 หวิดถูกห้ามฉาย ต้องตัดฉากพระร้องไห้เคาะโลงศพคนรักเก่า เพราะเราอยู่ในประเทศศีลธรรม กรรมการเซ็นเซอร์เห็นว่าพระต้องมีมิติเดียว ต้องตัดขาดจากโลก จะมาทุกข์โศกคร่ำครวญไม่ได้ ทำให้พระศาสนาเสียหาย
เหนือสิ่งอื่นใด คณะกรรมการเซ็นเซอร์ ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยเอกสารลงชื่อ ใช้อำนาจโดยไม่ต้องรับผิดชอบ คงเชื่อว่าพวกท่านทั้งหลาย มีศีลธรรมจรรยา มีสติปัญญาเหนือคนทำหนังและคนดู
แต่ที่ไหนได้ พอเอาคลิปมาแพร่ออนไลน์ คนแห่ดูเป็นล้าน เป็นฉากตื้นตันประทับใจ ไม่เห็นจะทำให้ศาสนาตกต่ำตรงไหน กลายเป็นตลกร้ายคล้ายห้ามแอมเนสตี้ฉายหนังสารคดี โจชัว หว่อง ซึ่งดูจาก Netflix ก็ได้
นี่คือกฎหมายเซ็นเซอร์ ที่ออกในยุครัฐประหาร 2549 มีการจัดเรตกำหนดอายุคนดู อย่างเท่ นึกว่าจะมีเสรีภาพมากขึ้นเหมือนต่างประเทศ ที่ไหนได้ กลับห้ามโน่นห้ามนี่จุกจิกหยุมหยิมกว่าเดิม แบบเดียวกับมีกระทรวงวัฒนธรรม นึกว่าจะส่งเสริมวัฒนธรรม กลายผูกขาดวัฒนธรรมความเป็นไทยอันดีงาม หวงห้ามทศกัณฐ์
ศีลธรรม ความดีงาม ความเป็นชาติ ศาสนา มักเป็นข้ออ้างของรัฐอำนาจนิยม ในการเพิ่มอำนาจวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ จำกัดความคิดเห็น เช่นเดียวกับข้ออ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย ความเป็นระเบียบ หรือควบคุมอบายมุข เหล้า บุหรี่ สถานบริการ
พูดง่ายๆ เมื่อไหร่ที่อ้างชาติ อ้างความดี ความสงบ ระเบียบสังคม เจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้อำนาจได้ไม่จำกัด
ไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งมีกรณี “ดอกเหมยลำซิ่ง” ร่ำไห้เฟสบุ๊คไลฟ์ งุนงงที่มีฝ่ายปกครองทหารตำรวจตรวจบัตรประชาชน ดูหมอลำงานลอยกระทงต้อง 20+ สุดท้ายถูกสั่งให้ยุติการแสดง ฐานเป็นแหล่งมั่วสุมเยาวชน
ฝั่งตำรวจออกมาแจง การแสดงที่อยู่ข้างโรงพัก จับวัยรุ่นเมาพกระเบิดปิงปองได้ห่างออกไป 100 เมตร มีเหตุชุลมุนหน้าเวที แจ้งผู้จัดว่าชุดจัดระเบียบสังคมออกมาตรวจ ผู้จัดก็ตัดสินใจเลิกเอง ไม่ได้สั่งปิด
ขณะที่ผู้ว่าฯ บอกว่าเรื่องนี้มีกฎหมายหลายฉบับ ถ้าปล่อยให้มีการเต้น จะเข้าข่ายกฎหมายสถานบริการ กฎหมายเยาวชน อายุเด็กสำคัญมากกับการซื้อสุรา ไม่ว่าจะซื้อข้างในหรือซื้อจากนอกเวที แม้จับระเบิดได้นอกเวที ก็ต้องมีการป้องปราม ตรวจบัตร ตรวจอาวุธ ตรวจแอลกอฮอล์ ต้องขอความร่วมมือ “เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น”
ซตพ. จบนะ เลิกดราม่า ต้องร่วมมือกันเพื่อความสงบสุขร่มเย็น นี่ยังไม่รู้ว่าดอกเหมยลำซิ่งจะโดน พ.ร.บ.คอมพ์ฐานไลฟ์เฟสแพร่ความเท็จให้ร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยหรือเปล่า
แต่เชื่อเหอะ มีคนจำนวนมากเลยละ ปรบมือเชียร์เจ้าหน้าที่ เพราะมองว่าลำซิ่ง คอนเสิร์ต เป็นแหล่งมั่วสุม เดี๋ยวเด็กแว้นก็ตีกัน ทำให้เดือดร้อนวุ่นวาย ลอยกระทงเป็นประเพณีไทย ทำไมต้องเต้น วัยรุ่นต้องไปอธิษฐานให้สิ่งไม่ดีหายไปแบบลุงตู่สิ
ทุกสังคมจะมีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองมีสถานะมั่นคง “ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร” สนับสนุนให้รัฐมีอำนาจมาก เจ้าหน้าที่มีอำนาจมาก เพื่อดูแลสังคมให้สงบเรียบร้อยดีงาม หรือกระทั่งใช้อำนาจเกินเลยในบางครั้ง เช่น ยุคทักษิณที่ว่าฆ่าตัดตอน คนส่วนใหญ่ก็เชียร์ มีแต่นักสิทธิมนุษยชน UN ที่คนไทยเกลียดนักหนา เที่ยววิพากษ์วิจารณ์ ไม่ต่างกับตอนแบ่งขั้วแบ่งข้างเชียร์กระสุนจริง เชียร์รัฐประหาร จับพวกอยากเลือกตั้ง
ดูเตอร์เตจึงได้รับความนิยมที่ฟิลิปปินส์ คนบราซิลได้ประธานาธิบดีที่ถูกตั้งแง่ว่าเหยียดผิวเหยียดเพศ แต่อ้างศาสนาจะมาปราบโกงปราบยาและจำกัดเสรีภาพฝ่ายค้าน
สี่ปีที่ผ่านมา ภายใต้การรักษาความสงบ คืนความสุข รัฐทหารราชการได้ขยายอำนาจจัดระเบียบ ไม่เฉพาะเรื่องการเมือง แต่ควบคุมวิถีชีวิต วัฒนธรรม การทำมาหากิน แทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ต้องขออนุญาต ต้องผ่านอำนาจวินิจฉัย ซึ่งบางครั้งก็ผ่อนผันให้ บางครั้งก็เข้มงวด โดยไม่ต้องมีหลักเกณฑ์ เพราะข้าราชการเป็นคนดีคนเก่งเหนือประชาชน
พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ขึ้นอยู่กับตำรวจอนุญาตหรือไม่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็แล้วแต่จะตีความอย่างไร นี่ยังจะมี พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ที่ยึดคอมพ์ยึดมือถือได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล
เราย้อนกลับสู่สังคมโรงเรียนที่มีครูคอยตรวจเสื้อผ้าหน้าผม ลอยกระทง ปีใหม่ สงกรานต์ ต้องพับเพียบเรียบร้อย ต้องรอคำสั่ง คสช.อนุญาตให้จุดพลุได้ จึงไชโยโห่ร้องดีใจกันสนั่น
น่าเศร้าใจว่าคนที่ชอบรัฐอำนาจนิยมมีจำนวนมาก โดยไม่ตระหนักว่าเป็นอันตราย ขณะที่คนอีกมากก็ไม่ตระหนักว่าการ “สืบทอดอำนาจ” นั้นไม่ใช่แค่ตัวบุคคล แต่คือรัฐอำนาจนิยมจะเป็นใหญ่ไปอีกยาวนาน
เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1891885
Submitted on Sat, 2018-12-01 14:12
ใบตองแห้ง
ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 หวิดถูกห้ามฉาย ต้องตัดฉากพระร้องไห้เคาะโลงศพคนรักเก่า เพราะเราอยู่ในประเทศศีลธรรม กรรมการเซ็นเซอร์เห็นว่าพระต้องมีมิติเดียว ต้องตัดขาดจากโลก จะมาทุกข์โศกคร่ำครวญไม่ได้ ทำให้พระศาสนาเสียหาย
เหนือสิ่งอื่นใด คณะกรรมการเซ็นเซอร์ ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยเอกสารลงชื่อ ใช้อำนาจโดยไม่ต้องรับผิดชอบ คงเชื่อว่าพวกท่านทั้งหลาย มีศีลธรรมจรรยา มีสติปัญญาเหนือคนทำหนังและคนดู
แต่ที่ไหนได้ พอเอาคลิปมาแพร่ออนไลน์ คนแห่ดูเป็นล้าน เป็นฉากตื้นตันประทับใจ ไม่เห็นจะทำให้ศาสนาตกต่ำตรงไหน กลายเป็นตลกร้ายคล้ายห้ามแอมเนสตี้ฉายหนังสารคดี โจชัว หว่อง ซึ่งดูจาก Netflix ก็ได้
นี่คือกฎหมายเซ็นเซอร์ ที่ออกในยุครัฐประหาร 2549 มีการจัดเรตกำหนดอายุคนดู อย่างเท่ นึกว่าจะมีเสรีภาพมากขึ้นเหมือนต่างประเทศ ที่ไหนได้ กลับห้ามโน่นห้ามนี่จุกจิกหยุมหยิมกว่าเดิม แบบเดียวกับมีกระทรวงวัฒนธรรม นึกว่าจะส่งเสริมวัฒนธรรม กลายผูกขาดวัฒนธรรมความเป็นไทยอันดีงาม หวงห้ามทศกัณฐ์
ศีลธรรม ความดีงาม ความเป็นชาติ ศาสนา มักเป็นข้ออ้างของรัฐอำนาจนิยม ในการเพิ่มอำนาจวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ จำกัดความคิดเห็น เช่นเดียวกับข้ออ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย ความเป็นระเบียบ หรือควบคุมอบายมุข เหล้า บุหรี่ สถานบริการ
พูดง่ายๆ เมื่อไหร่ที่อ้างชาติ อ้างความดี ความสงบ ระเบียบสังคม เจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้อำนาจได้ไม่จำกัด
ไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งมีกรณี “ดอกเหมยลำซิ่ง” ร่ำไห้เฟสบุ๊คไลฟ์ งุนงงที่มีฝ่ายปกครองทหารตำรวจตรวจบัตรประชาชน ดูหมอลำงานลอยกระทงต้อง 20+ สุดท้ายถูกสั่งให้ยุติการแสดง ฐานเป็นแหล่งมั่วสุมเยาวชน
ฝั่งตำรวจออกมาแจง การแสดงที่อยู่ข้างโรงพัก จับวัยรุ่นเมาพกระเบิดปิงปองได้ห่างออกไป 100 เมตร มีเหตุชุลมุนหน้าเวที แจ้งผู้จัดว่าชุดจัดระเบียบสังคมออกมาตรวจ ผู้จัดก็ตัดสินใจเลิกเอง ไม่ได้สั่งปิด
ขณะที่ผู้ว่าฯ บอกว่าเรื่องนี้มีกฎหมายหลายฉบับ ถ้าปล่อยให้มีการเต้น จะเข้าข่ายกฎหมายสถานบริการ กฎหมายเยาวชน อายุเด็กสำคัญมากกับการซื้อสุรา ไม่ว่าจะซื้อข้างในหรือซื้อจากนอกเวที แม้จับระเบิดได้นอกเวที ก็ต้องมีการป้องปราม ตรวจบัตร ตรวจอาวุธ ตรวจแอลกอฮอล์ ต้องขอความร่วมมือ “เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น”
ซตพ. จบนะ เลิกดราม่า ต้องร่วมมือกันเพื่อความสงบสุขร่มเย็น นี่ยังไม่รู้ว่าดอกเหมยลำซิ่งจะโดน พ.ร.บ.คอมพ์ฐานไลฟ์เฟสแพร่ความเท็จให้ร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยหรือเปล่า
แต่เชื่อเหอะ มีคนจำนวนมากเลยละ ปรบมือเชียร์เจ้าหน้าที่ เพราะมองว่าลำซิ่ง คอนเสิร์ต เป็นแหล่งมั่วสุม เดี๋ยวเด็กแว้นก็ตีกัน ทำให้เดือดร้อนวุ่นวาย ลอยกระทงเป็นประเพณีไทย ทำไมต้องเต้น วัยรุ่นต้องไปอธิษฐานให้สิ่งไม่ดีหายไปแบบลุงตู่สิ
ทุกสังคมจะมีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองมีสถานะมั่นคง “ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร” สนับสนุนให้รัฐมีอำนาจมาก เจ้าหน้าที่มีอำนาจมาก เพื่อดูแลสังคมให้สงบเรียบร้อยดีงาม หรือกระทั่งใช้อำนาจเกินเลยในบางครั้ง เช่น ยุคทักษิณที่ว่าฆ่าตัดตอน คนส่วนใหญ่ก็เชียร์ มีแต่นักสิทธิมนุษยชน UN ที่คนไทยเกลียดนักหนา เที่ยววิพากษ์วิจารณ์ ไม่ต่างกับตอนแบ่งขั้วแบ่งข้างเชียร์กระสุนจริง เชียร์รัฐประหาร จับพวกอยากเลือกตั้ง
ดูเตอร์เตจึงได้รับความนิยมที่ฟิลิปปินส์ คนบราซิลได้ประธานาธิบดีที่ถูกตั้งแง่ว่าเหยียดผิวเหยียดเพศ แต่อ้างศาสนาจะมาปราบโกงปราบยาและจำกัดเสรีภาพฝ่ายค้าน
สี่ปีที่ผ่านมา ภายใต้การรักษาความสงบ คืนความสุข รัฐทหารราชการได้ขยายอำนาจจัดระเบียบ ไม่เฉพาะเรื่องการเมือง แต่ควบคุมวิถีชีวิต วัฒนธรรม การทำมาหากิน แทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ต้องขออนุญาต ต้องผ่านอำนาจวินิจฉัย ซึ่งบางครั้งก็ผ่อนผันให้ บางครั้งก็เข้มงวด โดยไม่ต้องมีหลักเกณฑ์ เพราะข้าราชการเป็นคนดีคนเก่งเหนือประชาชน
พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ขึ้นอยู่กับตำรวจอนุญาตหรือไม่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็แล้วแต่จะตีความอย่างไร นี่ยังจะมี พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ที่ยึดคอมพ์ยึดมือถือได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล
เราย้อนกลับสู่สังคมโรงเรียนที่มีครูคอยตรวจเสื้อผ้าหน้าผม ลอยกระทง ปีใหม่ สงกรานต์ ต้องพับเพียบเรียบร้อย ต้องรอคำสั่ง คสช.อนุญาตให้จุดพลุได้ จึงไชโยโห่ร้องดีใจกันสนั่น
น่าเศร้าใจว่าคนที่ชอบรัฐอำนาจนิยมมีจำนวนมาก โดยไม่ตระหนักว่าเป็นอันตราย ขณะที่คนอีกมากก็ไม่ตระหนักว่าการ “สืบทอดอำนาจ” นั้นไม่ใช่แค่ตัวบุคคล แต่คือรัฐอำนาจนิยมจะเป็นใหญ่ไปอีกยาวนาน
เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1891885
แสดงความคิดเห็น