ชาวโรฮิงญากว่า 20 ราย หลบหนีจากห้องกัก ตม. พังงา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต 1 ราย
ผู้ต้องกักชายชาวโรฮิงญากว่า 20 รายพากันหลบหนีออกจากห้องพักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพังงา กลางดึกวันที่ 23 พ.ค. โดยแยกย้ายกันหลบหนีเข้าไปบริเวณเนินและป่าละเมาะใกล้เคียง บางส่วนขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต 1 ราย ติดตามตัวกลับมาได้ 15 ราย และคาดว่ายังคงหลบหนีอยู่อีก 6 ราย
พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังระดมกำลังติดตามผู้ที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ให้รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับผู้ที่ถูกจับกุมและเสียชีวิต
ผู้ต้องกักชายชาวโรฮิงญากว่า 20 รายพากันหลบหนีออกจากห้องพักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพังงา กลางดึกวันที่ 23 พ.ค. โดยแยกย้ายกันหลบหนีเข้าไปบริเวณเนินและป่าละเมาะใกล้เคียง บางส่วนขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต 1 ราย ติดตามตัวกลับมาได้ 15 ราย และคาดว่ายังคงหลบหนีอยู่อีก 6 ราย
พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังระดมกำลังติดตามผู้ที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ให้รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับผู้ที่ถูกจับกุมและเสียชีวิต
ด้านนายศิววงศ์ สุขทวี จากเครือข่ายองค์กรเพื่อประชากรข้ามชาติ ซึ่งทำงานติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงญา ให้ความเห็นว่าต้องมีการไต่สวนการตายของชาวโรฮิงญาในกรณีนี้ให้ชัดเจน อย่างน้อยที่สุดเห็นว่าการทำงานของเจ้าหน้าเป็นการใช้อำนาจอย่างที่มีการจำกัดขอบเขตและตรวจสอบได้
นายศิววงศ์ระบุว่า ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงในการต่อสู้ขัดขืนกับเจ้าหน้าที่ด้วย หากข้อเท็จจริงคือการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้ก้อนหินขว้างปาใส่ตำรวจแต่ถูกตำรวจใช้อาวุธปืนตอบโต้ก็ถือว่าไม่เป็นเหตุเป็นผลเพียงพอ ทั้งนี้คณะทำงานต่างๆ ที่ติดตามให้ความเหลือชาวโรฮิงญาทั้งในด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนควรจะต้องสรุปความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้โดยเร็ว
นายศิววงศ์ระบุด้วยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นผลมาจากการถูกกักขังอย่างไม่มีกำหนดเวลาแน่นอนชัดเจน และชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ถูกกักตัวมากว่า 2 ปีแล้วโดยไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ความพยายามหลบหนี หรือขัดขวางเจ้าหน้าที่ระหว่างหลบหนีอาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ถูกกักขังคิดว่าจำเป็นต้องกระทำ และอาจจะคิดว่าการเสียชีวิตอาจจะดีกว่าการกลับไปอยู่ในห้องกักโดยไม่รู้เวลาแน่นอน
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
นายศิววงศ์ระบุว่า ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงในการต่อสู้ขัดขืนกับเจ้าหน้าที่ด้วย หากข้อเท็จจริงคือการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้ก้อนหินขว้างปาใส่ตำรวจแต่ถูกตำรวจใช้อาวุธปืนตอบโต้ก็ถือว่าไม่เป็นเหตุเป็นผลเพียงพอ ทั้งนี้คณะทำงานต่างๆ ที่ติดตามให้ความเหลือชาวโรฮิงญาทั้งในด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนควรจะต้องสรุปความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้โดยเร็ว
นายศิววงศ์ระบุด้วยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นผลมาจากการถูกกักขังอย่างไม่มีกำหนดเวลาแน่นอนชัดเจน และชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ถูกกักตัวมากว่า 2 ปีแล้วโดยไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ความพยายามหลบหนี หรือขัดขวางเจ้าหน้าที่ระหว่างหลบหนีอาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ถูกกักขังคิดว่าจำเป็นต้องกระทำ และอาจจะคิดว่าการเสียชีวิตอาจจะดีกว่าการกลับไปอยู่ในห้องกักโดยไม่รู้เวลาแน่นอน
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
แสดงความคิดเห็น