ซูจีขอ "พื้นที่อิสระ" ในการจัดการปัญหาโรฮิงญา
นางออง ซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา กล่าวหลังการพบปะกับนายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเรียกร้องให้เมียนมาจัดการกับปัญหาสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ว่า เมียนมาขอพื้นที่ที่มีความเป็นอิสระพอที่จะจัดการปัญหาของตนเอง ซึ่งคำว่าโรฮิงญานั้น ปลุกเร้าความรู้สึกที่รุนแรงในสังคมเมียนมา จึงยากที่จะหาทางแก้ไขด้วยสันติวิธีและเหตุผล จึงอยากขอให้ทุกคนตระหนักถึงความยากลำบากที่รัฐบาลเมียนมากำลังประสบอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายเคอร์รีได้หารือกับนางซูจี ถึงปัญหาชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา ซึ่งนายเคอร์รีกล่าวว่า ตนเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมุ่งเน้นก็คือการลงมือแก้ไขปัญหา โดยจะต้องทำให้สถานการณ์ในพื้นที่รัฐยะไข่ดีขึ้น ส่งเสริมการพัฒนา และส่งเสริมการพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนเมียนมาทั้งประเทศ
นางออง ซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา กล่าวหลังการพบปะกับนายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเรียกร้องให้เมียนมาจัดการกับปัญหาสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ว่า เมียนมาขอพื้นที่ที่มีความเป็นอิสระพอที่จะจัดการปัญหาของตนเอง ซึ่งคำว่าโรฮิงญานั้น ปลุกเร้าความรู้สึกที่รุนแรงในสังคมเมียนมา จึงยากที่จะหาทางแก้ไขด้วยสันติวิธีและเหตุผล จึงอยากขอให้ทุกคนตระหนักถึงความยากลำบากที่รัฐบาลเมียนมากำลังประสบอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายเคอร์รีได้หารือกับนางซูจี ถึงปัญหาชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา ซึ่งนายเคอร์รีกล่าวว่า ตนเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมุ่งเน้นก็คือการลงมือแก้ไขปัญหา โดยจะต้องทำให้สถานการณ์ในพื้นที่รัฐยะไข่ดีขึ้น ส่งเสริมการพัฒนา และส่งเสริมการพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนเมียนมาทั้งประเทศ
ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาราว 125,000 คน ที่ต้องพลัดจากถิ่นที่อยู่อาศัย เนื่องจากเหตุความรุนแรงในรัฐยะไข่และเมืองอื่น ๆ ของเมียนมาตั้งแต่ปี 2012 และเมื่อสัปดาห์ก่อน นางซูจีได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเมียนมางดเว้นการใช้คำว่า "โรฮิงญา" เรียกชื่อกลุ่มชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ โดยทางการเมียนมาถือว่าคนกลุ่มนี้เป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฏหมายจากบังกลาเทศ และชาวเมียนมาหลายคนเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "เบงกาลี"
แสดงความคิดเห็น