รัฐบาลสหรัฐฯ เผยสถิติก่อการร้ายทั่วโลกลดลง แต่ขยายวงกว้างขึ้นในปี 2558
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ผลสำรวจสถิติเหตุการณ์ก่อการร้ายทั่วโลกตลอดปี 2558 พบว่ามีจำนวนลดลง 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสถิติที่รวบรวมได้เมื่อปี 2557
ทั้งนี้ สถิติการก่อการร้ายลดลงใน 3 จาก 5 ประเทศที่เคยมีสถิติการก่อเหตุสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกในปี 2557 ได้แก่ อิรัก ปากีสถาน และไนจีเรีย ส่วนอีก 2 ประเทศที่เหลือ ได้แก่ อินเดียและอัฟกานิสถาน ยังมีสถิติการก่อการร้ายสูงเช่นเดิม โดยการก่อเหตุในสองประเทศรวมกันตลอดปีที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 11,000 ครั้ง และเป็นเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนเป็นส่วนใหญ่
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ผลสำรวจสถิติเหตุการณ์ก่อการร้ายทั่วโลกตลอดปี 2558 พบว่ามีจำนวนลดลง 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสถิติที่รวบรวมได้เมื่อปี 2557
ทั้งนี้ สถิติการก่อการร้ายลดลงใน 3 จาก 5 ประเทศที่เคยมีสถิติการก่อเหตุสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกในปี 2557 ได้แก่ อิรัก ปากีสถาน และไนจีเรีย ส่วนอีก 2 ประเทศที่เหลือ ได้แก่ อินเดียและอัฟกานิสถาน ยังมีสถิติการก่อการร้ายสูงเช่นเดิม โดยการก่อเหตุในสองประเทศรวมกันตลอดปีที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 11,000 ครั้ง และเป็นเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนเป็นส่วนใหญ่
นายจัสติน ซีเบอร์เรล รักษาการผู้ประสานงานต่อต้านการก่อการร้าย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าแม้สถิติการก่อการร้ายโดยรวมทั่วโลกจะลดลง แต่การก่อเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ อียิปต์ ฟิลิปปินส์ ซีเรีย และตุรกี กลับเพิ่มสูงขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สรุปว่าภัยคุกคามจากการก่อการร้ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2558 เป็นผลจากการกระจายอำนาจของกลุ่มก่อการร้าย ทำให้การก่อเหตุต่างๆ ขยายวงกว้าง และกลุ่มเหล่านี้ฉวยโอกาสก่อเหตุในประเทศที่กำลังเผชิญเหตุการณ์ไม่สงบ ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพและช่องทางในการแสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตาม กองกำลังติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงแนวร่วมกลุ่มต่างๆ ในหลายภูมิภาค ทั้งตะวันออกลาง แอฟริกา และเอเชีย แม้ปีที่ผ่านมากลุ่มไอเอสจะสูญเสียฐานที่มั่นที่เคยยึดครองในอิรักและซีเรีย แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มกำลังและฐานที่มั่นได้ในลิเบียและอียิปต์
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่าอิหร่านเป็นประเทศใหญ่ที่สุดที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ส่งเสริมให้เกิดความขัดแย้งในซีเรียและอิรัก ทั้งยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลบาห์เรน ซึ่งที่ผ่านมา บาห์เรนกล่าวหาว่าอิหร่านให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มผู้วางระเบิดโจมตีหน่วยงานด้านความมั่นคงของบาห์เรน แต่อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด
ขณะที่มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ของสหรัฐฯ เปิดเผยสถิติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุก่อการร้ายทั่วโลกตลอดปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 28,300 ราย ลดลงราว 14 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสถิติผู้เสียชีวิตในปี 2557 ส่วนสถิติผู้บาดเจ็บจากเหตุก่อการร้ายเมื่อ 2558 มีจำนวนราว 35,300 ราย จากการก่อเหตุร้ายทั้งหมด 11,774 ครั้ง
ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่ากลุ่มไอเอสพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนในกลุ่มประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยแนวร่วมของกลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีใน 11 ประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไม่สงบต่างๆ อย่างเช่น ซีเรีย อิรัก เยเมน อัฟกานิสถาน และลิเบีย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สรุปว่าภัยคุกคามจากการก่อการร้ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2558 เป็นผลจากการกระจายอำนาจของกลุ่มก่อการร้าย ทำให้การก่อเหตุต่างๆ ขยายวงกว้าง และกลุ่มเหล่านี้ฉวยโอกาสก่อเหตุในประเทศที่กำลังเผชิญเหตุการณ์ไม่สงบ ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพและช่องทางในการแสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตาม กองกำลังติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงแนวร่วมกลุ่มต่างๆ ในหลายภูมิภาค ทั้งตะวันออกลาง แอฟริกา และเอเชีย แม้ปีที่ผ่านมากลุ่มไอเอสจะสูญเสียฐานที่มั่นที่เคยยึดครองในอิรักและซีเรีย แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มกำลังและฐานที่มั่นได้ในลิเบียและอียิปต์
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่าอิหร่านเป็นประเทศใหญ่ที่สุดที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ส่งเสริมให้เกิดความขัดแย้งในซีเรียและอิรัก ทั้งยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลบาห์เรน ซึ่งที่ผ่านมา บาห์เรนกล่าวหาว่าอิหร่านให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มผู้วางระเบิดโจมตีหน่วยงานด้านความมั่นคงของบาห์เรน แต่อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด
ขณะที่มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ของสหรัฐฯ เปิดเผยสถิติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุก่อการร้ายทั่วโลกตลอดปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 28,300 ราย ลดลงราว 14 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสถิติผู้เสียชีวิตในปี 2557 ส่วนสถิติผู้บาดเจ็บจากเหตุก่อการร้ายเมื่อ 2558 มีจำนวนราว 35,300 ราย จากการก่อเหตุร้ายทั้งหมด 11,774 ครั้ง
ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่ากลุ่มไอเอสพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนในกลุ่มประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยแนวร่วมของกลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีใน 11 ประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไม่สงบต่างๆ อย่างเช่น ซีเรีย อิรัก เยเมน อัฟกานิสถาน และลิเบีย
แสดงความคิดเห็น