ช่างภาพข่าวชาวอเมริกันเสียชีวิตพร้อมล่ามชาวอัฟกัน หลังขบวนรถกองทัพอัฟกานิสถานถูกโจมตี
นายเดวิด กิลคีย์ ช่างภาพข่าวชาวอเมริกัน สังกัดสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติของสหรัฐฯ (NPR) วัย 50 ปี เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. โดยนายกิลคีย์อยู่บนรถคันหนึ่งในขบวนของกองทัพอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ใกล้กับเมืองมาร์จาห์ในจังหวัดเฮลมานด์ ทางใต้ของอัฟกานิสถาน
ขณะเดียวกัน นายซาบีฮุลเลาะห์ ทามันนา ช่างภาพและผู้สื่อข่าวชาวอัฟกัน วัย 38 ปี ซึ่งเป็นล่ามให้กับนายกิลคีย์ รวมถึงนายทหารชาวอัฟกันผู้ขับรถคันที่ถูกโจมตี เสียชีวิตพร้อมกัน แต่เจ้าหน้าที่อีกสองรายของเอ็นพีอาร์ที่รวมขบวนไปด้วย รอดชีวิตมาได้
นายไมเคิล โอเรสคิส รองประธานอาวุโสของเอ็นพีอาร์ กล่าวว่านายกิลคีย์เป็นผู้รายงานความขัดแย้งในประเทศอิรักและอัฟกานิสถานตั้งแต่หลังเหตุการณ์วินาศกรรมที่สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544 หรือ 9/11 เขาอุทิศตนเองให้สาธารณชนได้เห็นว่าสงครามต่างๆ และผู้คนที่ต้องตกอยู่ในสงครามมีสภาพเช่นไร และเขาล่วงลับไปขณะที่กำลังพยายามปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวให้ลุล่วง ในฐานะมนุษย์และช่างภาพคนหนึ่ง นายกิลคีย์ได้แสดงให้เห็นมนุษยธรรมในตัวผู้คนที่รายล้อมเขา และทำให้ได้เรามองเห็นโลกผ่านสายตาของเขาด้วย
ทั้งนี้ นายกิลคีย์เป็นสื่อมวลชนอเมริกันรายแรกที่ไม่ได้ฝังตัวกับกองทัพสหรัฐฯ และเสียชีวิตในอัฟกานิสถาน โดยที่ผ่านมาเขาได้รับรางวัลต่างๆ มากมายจากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน โดยผลงานที่ได้รับรางวัล ได้แก่ วิดีโอสารคดีเกี่ยวกับนาวิกโยธินสหรัฐฯ จากรัฐมิชิแกนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในอิรัก ได้รับรางวัลเอ็มมี่เมื่อปี 2550 รวมถึงการสืบสวนสอบสวนนโยบายดูแลสุขภาพทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน และการรายงานข่าวเกี่ยวกับวิกฤตเชื้อไวรัสอีโบล่า
เมื่อปี 2554 นายกิลคีย์ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นช่างภาพยอดเยี่ยม สาขาภาพนิ่ง จากสมาคมช่างภาพประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ และเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา เขายังได้รับรางวัลเอ็ดเวิร์ดเมอร์โรว์ จากการรายงานความขัดแย้งทางการทหารและภัยพิบัติทางธรรมชาติอีกด้วย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.