ผู้อ่านคิดอย่างไรกันครับ
ข่าวเด็กถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ในป่าจุดกระแสถกเถียงเรื่องการเลี้ยงลูกในญี่ปุ่น บ้างก็ประณามวิธีการเลี้ยงลูกของผู้ปกครองรายนี้ และชี้ให้เห็นถึงค่านิยมพ่อแม่ญี่ปุ่นที่มองว่าลูกเป็นสมบัติส่วนตัวจะปฏิบัติอย่างไรก็ดี แต่บางคนก็เห็นอกเห็นใจเพราะเคยมีความซุกซนอย่างร้ายกาจเช่นกัน
กรณีที่ ด.ช.ยามาโตะ ทาโนะโอกะ หายตัวไปในเขตป่าจังหวัดฮอกไกโดของญี่ปุ่นนานหลายวันได้ก่อให้เกิดการถกเถียงเป็นวงกว้างถึงเรื่องวิธีการเลี้ยงลูกของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเด็กชายหายตัวไปเพราะถูกพ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ในป่าเพื่อเป็นการลงโทษ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กถูกลงโทษแบบนี้ แต่เป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ข่าวการหายตัวของ ด.ช.ยามาโตะ ถูกเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.) โดยในเบื้องต้นพ่อเด็กบอกว่า เด็กชายวัย 7 ขวบพลัดหลงกับครอบครัวขณะกำลังหาของป่า แต่ในภายหลังได้ยอมสารภาพว่าตนและภรรยาทิ้งลูกชายไว้ในป่าเพื่อลงโทษที่เด็กเกเร และให้เหตุผลว่าที่ไม่ยอมเล่าความจริงตั้งแต่แรกก็เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองพวกเขาไม่ดี
ผู้สื่อข่าวบีบีซีระบุว่า การที่พ่อเด็กเป็นห่วงว่าตนเองจะเสียหน้ามากกว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกนั้น สร้างความไม่พอใจให้ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้
นาโอกิ โอกิ พิธีกรรายการโทรทัศน์และผู้เชี่ยวชาญด้านครุศาสตร์ กล่าวประณามวิธีการเลี้ยงลูกของผู้ปกครองรายนี้ โดยชี้ว่าเป็นการปล่อยปละละเลยและการทารุณเด็ก ขณะเดียวกันก็วิจารณ์ผู้ปกครองชาวญี่ปุ่นที่มักมองลูกว่าเป็นสมบัติส่วนตัวสามารถปฏิบัติต่อเด็กได้ตามใจชอบ
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้ปกครองรายนี้ โดย ยูมิ โตโยซากิ นักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดังทวีตเล่าว่าตนเองเคยเป็นเด็กที่ดื้อซนมาก ดังนั้นจึงเข้าใจพ่อแม่ของ ด.ช.ยามาโตะ ที่ทิ้งลูกไว้ในป่าเป็นเวลาสั้น ๆ หวังลงโทษเด็ก พร้อมขอให้สังคมหยุดตำหนิผู้ปกครองรายนี้เสียที
ขณะที่ผู้ปกครองคนอื่น ๆ แสดงความเห็นใจและเข้าใจถึงพฤติกรรมของเด็กเล็กที่สามารถหายตัวไปได้ในพริบตา นอกจากนี้บางคนยังเล่าประสบการณ์ที่เคยถูกพ่อแม่แกล้งปล่อยทิ้งไว้เพื่อเป็นการลงโทษด้วย อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ผู้ปกครองจะต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดและไม่ปล่อยให้เด็กคลาดสายตาเป็นอันขาด


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.