คณะไต่สวนจี้รัสเซียแจงข้อเท็จจริง กรณีพบชิ้นส่วนจรวดในที่เกิดเหตุเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตกในยูเครน
คณะทำงานร่วมระหว่างประเทศเพื่อการไต่สวนข้อเท็จจริง (JIT) กรณีเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกในภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อปี 2557 เผยรายงานผลความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. โดยมีการเผยแพร่ภาพถ่ายชิ้นส่วนจรวดต่อสู้อากาศยาน (BUK) ที่พบในจุดเกิดเหตุเครื่องบินตก พร้อมขอให้รัสเซียช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะจรวดดังกล่าวเป็นจรวด“เวนทูรี” ที่ผลิตโดยรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินของเนเธอร์แลนด์ ยืนยันผลสอบสวนเบื้องต้นซึ่งให้ข้อมูลตรงกันกับคณะทำงานเจไอทีว่าจรวดบุคเป็นตัวการทำให้เที่ยวบิน MH17 ตกในยูเครน ทำให้ผู้อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด 298 ราย โดยหน่วยงานของเนเธอร์แลนด์ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเที่ยวบิน MH17 เพราะเที่ยวบินดังกล่าวถูกยิงตกหลังออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์เพื่อไปยังปลายทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ทั้งคณะทำงานเจไอทีและคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินเนเธอร์แลนด์ ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ยิงจรวดบุคที่เป็นสาเหตุให้เครื่องบินตก แต่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันยื่นฟ้องศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป เพื่อเอาผิดต่อนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในฐานะผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลยูเครนซึ่งยึดครองพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุเที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตก
ขณะที่รัฐบาลรัสเซียแถลงตอบโต้ข้อสันนิษฐานที่ว่ากลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยูเครนเป็นฝ่ายยิงจรวดจนเครื่องบินตก โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้เช่นกันที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะถูกยิงโดยกองทัพรัฐบาลยูเครนที่พยายามยึดพื้นที่ในภาคตะวันออกคืน



แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.