ยูเอ็นเอชซีอาร์เผยมีแนวโน้มที่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาร์ในไทยต้องการเดินทางกลับประเทศมากขึ้น
เว็บไซต์ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เผยแพร่บทความระบุว่ามีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาร์ที่อาศัยอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในไทยได้เริ่มทยอยขอความช่วยเหลือเพื่อเดินทางกลับประเทศ หลังจากเมียนมาร์ได้แต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว โดยในช่วงไม่กี่เดือนมานี้มีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาร์ราว 200-300 คน จากค่ายผู้ลี้ภัย 9 ค่ายตามเขตชายแดนไทย-เมียนมาร์ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว
นายเอียน ฮอลล์ ผู้ประสานงานภาคสนามระดับอาวุโส ยูเอ็นเอชซีอาร์ที่อำเภอแม่สอด กล่าวว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือหากสามารถยืนยันได้ว่าการตัดสินใจของผู้ขอลี้ภัยเป็นไปด้วยความสมัครใจและเมียนมาร์ให้การต้อนรับ รวมทั้งจะต้องไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัย
ยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า ผู้ลี้ภัยที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ยังค่ายผู้ลี้ภัยนุโพ จังหวัดตาก มีความหลากหลายทางด้านที่มา และแรงจูงใจในการกลับบ้าน โดยในกลุ่มนี้มีชาวกะเหรี่ยงต้องการจะเดินทางกลับไปยังเมืองที่พวกเขาจากมาหรือในพื้นที่อื่นที่เป็นรัฐกะเหรี่ยง เช่นเดียวกับผู้ลี้ภัยชาติพันธุ์อื่น ๆที่ต้องการเดินทางกลับไปยังเมืองต่าง ๆ เช่นเมืองมะละแหม่ง และย่างกุ้ง
ผู้ลี้ภัยบางกลุ่มนั้นต้องการเดินทางกลับเนื่องจากรู้สึกมั่นใจกับสถานการณ์ทางการเมือง อีกกลุ่มรู้สึกมั่นใจในกระบวนการสร้างสันติภาพ และอีกหลายคนที่พร้อมมีโอกาสใหม่ที่บ้านเกิดและสิ้นสุดสถานะ การเป็นผู้ลี้ภัยหลังจากต้องพลัดถิ่นเป็นเวลาหลายสิบปี ขณะที่ผู้ลี้ภัยบางกลุ่มเองก็ยังมีความกังวลในเรื่องต่างๆเช่น ความปลอดภัย สภาพความเป็นอยู่ และเลือกที่จะอยู่รอเพื่อตัดสินใจก่อน
ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาร์กว่า 100,000 คนในค่ายผู้ลี้ภัยทั้ง 9 แห่งตามชายแดนไทย-เมียนมาร์ ‪#‎ผู้ลี้ภัย‬
(ภาพจากแฟ้มภาพ)


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.