เยี่ยมบ้านเรียบง่ายแบบมินิมัลลิสม์ในญี่ปุ่น
กระแสการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมัลลิสม์กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ผู้คนจำนวนมากเริ่มหันมาดำเนินชีวิตโดยลดทอนความฟุ้งเฟ้อ บริโภคแต่พอดี มีข้าวของเครื่องใช้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
แนวคิดมินิมัลลิสม์ทำให้หลายคนหันมาทบทวนความหมายของ “การมี” เสียใหม่ และสำหรับบางคน “การมี” นั้นหมายถึงการมีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น
ฟุมิโอะ ซาซากิ เป็นอีกผู้หนึ่งที่เห็นด้วยกับแนวคิด “น้อยแต่มากด้วยประโยชน์” เมื่อ 2 ปีก่อนเขาเริ่มเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตทันสมัยไล่ตามกระแส และเริ่มลดทอนข้าวของตัวเอง เขามานั่งคิดว่าของที่เขาไม่มีมันทำให้ชีวิตขาดอะไรไปไหม เขาบอกว่าการมีข้าวของน้อยลงทำให้เสียเวลาไปกับการทำความสะอาดหรือการเดินซื้อของน้อยลง ซึ่งทำให้มีเวลาเจอเพื่อน ได้ไปเที่ยวหรือเดินทางในช่วงวันหยุดมากขึ้น และทำให้เขารู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย
ด้าน นาโอกิ นุมะฮาตะ นักเขียนอิสระบอกว่า ตามแนวคิดตะวันตกความสมบูรณ์คือการเติมเต็มด้วยวัตถุ แต่สำหรับแนวคิดแบบเซนมองว่าความไม่สมบูรณ์เปิดโอกาสให้คนได้ใช้จินตนาการเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป
ส่วนคัตซึยะ โทโยดะ บรรณาธิการสื่อออนไลน์ บอกว่าในอดีตเขาไม่ได้มีสมบัติพัสถานมากกว่าคนทั่วไป แต่เขาก็ไม่ได้ชอบหรือเห็นค่าของทุกสิ่งที่เขามี ปัจจุบันอพาร์ตเมนต์ขนาด 22 ตร.ม.ของเขามีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวและฟูกที่นอน 1 หลัง เท่านั้น เขาบอกด้วยว่าเขาหันมานิยมแนวคิดมินิมัลลิสม์เพื่อที่เขาจะได้อยู่กับของที่เขาชอบจริง ๆ เท่านั้น #Minimalism#มินิมัลลิสม์
ด้าน นาโอกิ นุมะฮาตะ นักเขียนอิสระบอกว่า ตามแนวคิดตะวันตกความสมบูรณ์คือการเติมเต็มด้วยวัตถุ แต่สำหรับแนวคิดแบบเซนมองว่าความไม่สมบูรณ์เปิดโอกาสให้คนได้ใช้จินตนาการเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป
ส่วนคัตซึยะ โทโยดะ บรรณาธิการสื่อออนไลน์ บอกว่าในอดีตเขาไม่ได้มีสมบัติพัสถานมากกว่าคนทั่วไป แต่เขาก็ไม่ได้ชอบหรือเห็นค่าของทุกสิ่งที่เขามี ปัจจุบันอพาร์ตเมนต์ขนาด 22 ตร.ม.ของเขามีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวและฟูกที่นอน 1 หลัง เท่านั้น เขาบอกด้วยว่าเขาหันมานิยมแนวคิดมินิมัลลิสม์เพื่อที่เขาจะได้อยู่กับของที่เขาชอบจริง ๆ เท่านั้น #Minimalism#มินิมัลลิสม์
แสดงความคิดเห็น