Posted: 23 Aug 2017 09:13 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ก่อนตัดสินคดีจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ 'ประยุทธ์' ไม่หวั่น ปชช.มาให้กำลังใจ ผบช.ภาค 5 ตรวจยาเสพติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ปัดสกัดคนไปเชียร์ ตร.เชิญ นปช.พะเยา ให้ข้อมูลเคลื่อนไหวเชียร์ พร้อมเตือนให้หลีกเลี่ยง พร้อมคัดกรองรถผ่านแจ้งวัฒนะ แนะทางเลี่ยงบริเวณศาลฎีกาฯ วันตัดสิน


แฟ้มภาพ

23 ส.ค.2560 ความเคลื่อนไหวก่อนการตัดสินของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 25 ส.ค.นี้
ประยุทธ์ไม่หวั่น ปชช.มาให้กำลังใจ

วันนี้ (23 ส.ค.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ว่า สั่งจับตา จนเจ็บตาไปหมดแล้ว (นายกเอามือมาจับตาตัวเองด้วย) เพราะสื่อถามถึงกรณีนี้มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลา เสียสมอง และเสียงบประมาณ โดยไม่ใช่เรื่อง

ต่อกรณีคำถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่ประชาชนจะเดินทางมาให้กำลังใจหรือไม่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศต้องช่วยกันรับมือ หากเกิดอะไรขึ้น ประชาชนจะได้รับผลกระทบเอง ไม่ใช่ตนและรัฐบาล ประชาชนจะต้องห่วงประชาชนด้วยกันเองด้วย เพราะรัฐบาลไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้อง และไม่ต้องการใช้กำลังหรือบังคับใช้กฎหมาย เพราะต้องการให้ประชาชนได้ห่วงตัวเอง

“แม้จะเคลื่อนไหวอย่างไร ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงผลคำตัดสินได้ เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครทราบผลคำพิพากษา ขณะนี้องค์คณะผู้พิพากษาแต่ละคนมีเพียงคำพิพากษาส่วนตัว ซึ่งต้องนำมาร่วมกันในวันตัดสิน เพื่อทำออกมาเป็นคำพิพากษากลาง แม้แต่ผมหรือใครก็ตาม ไม่มีใครรู้คำพิพากษาได้ ดังนั้น ขอให้ดูที่คำตัดสิน ซึ่งออกมาอย่างไร ก็มีกลไกลดำเนินการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

ผบช.ภาค 5 ตรวจยาเสพติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ปัดสกัดคนไปเชียร์ยิ่งลักษณ์

ขณะที่วันเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร (ผบช.) ภาค 5 เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ สนธิกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ของสถานีรถไฟ

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ปฎิเสธว่า การเดินทางมาสถานีรถไฟครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการมาตรวจสอบประชาชนที่จะเดินทางไปให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ แต่อย่างใด แต่มาตรวจดูเรื่องยาเสพติดเป็นหลัก เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางยาเสพติดได้จำนวนมาก อาทิ ยาบ้า ที่นาพูล 1.1 ล้านเม็ด อ.แม่สาย จ.เชียงราย 4 แสน และที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อีก 1 แสนเม็ด ซึ่งจากการสอบสวนและขยายผลพบว่ารถไฟก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้เป็นช่องทางในการลำเลียงยาเสพติด จึงมาขอความร่วมมือกับนายสถานีรถไฟให้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันมากขึ้น
สำหรับการเข้มงวดตรวจสอบประชาชนที่จะเดินทางไปให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีในวันตัดสินคดีรับจำนำข้าว

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันตามปกติ รัฐบาลก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เจ้าหน้าที่เองพยายามควบคุมดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ให้หนักแน่น ใช้อดทนอดกลั้น ทำทุกอย่างภายใต้กฎหมายปกติที่ใช้กันอยู่เป็นพื้นฐานก่อน ส่วนด่านตรวจต่างๆก็เข้มงวดอยู่แล้วจะเห็นได้จากการสกัดกั้นยาเสพติดได้จำนวนมาก

ตร.เชิญ นปช.พะเยา ให้ข้อมูลเคลื่อนไหวเชียร์ พร้อมเตือนให้หลีกเลี่ยง

ศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พะเยา กล่าวว่า ช่วงเช้า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองพะเยา ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบมาหาตนที่บ้านถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกเวลา 07.00 น. มาประมาณ 5 นาย สอบถามเรื่องการเดินทางเข้าร่วมให้กำลังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 25 ส.ค.60 จากนั้นครั้งที่สองเวลาประมาณ 10.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองพะเยา จำนวน 5-6 นาย ครั้งนี้มาขอเชิญตัวไปให้ข้อมูลที่ สภ.เมืองพะเยา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งนั่งประกบคู่ตนไปด้วย โดยตนขับรถไปเองมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งประกบไปเป็นเพื่อน 1 นาย ที่เหลือก็ขับรถของตำรวจตามกันไปถึง สภ.เมืองพะเยา

ผู้ประสานงาน นปช.พะเยา กล่าวต่อว่า เมื่อมาถึง สภ.เมืองพะเยา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พาตนไปพบ ผกก.สภ.เมืองพะเยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงพะเยาที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร พร้อมรายละเอียดด้านอื่นๆ เช่น การเดินทาง จำนวนคน เป็นต้น ซึ่งตนแม้จะเป็นผู้ประสานงาน นปช.พะเยา แต่เนื่องจากตนเองไม่สามารถเดินทางเข้าไปร่วมให้กำลังใจแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในครั้งนี้ได้ เนื่องจากไม่สบายเป็นกระเพาะอาหารทะลุ และข้าวในนาจำนวน 5 ไร่ ที่เสียหายจากปูและศัตรูพืชกัดกินต้นข้าวต้องอยู่ซ่อมข้าว จึงออกนอกพื้นที่ไม่ได้ ดังนั้นการเดินทางของเสื้อแดงคนอื่นๆ ตนจึงไม่ทราบ ประกอบกับการเดินทางของแต่ละคนไม่มีการรวมกลุ่ม ต่างคนต่างเดินทางเอง ตนจึงไม่ทราบรายละเอียดมากกว่านี้

“อย่างไรก็ตามผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกหน่วย ทั้งทหาร ตำรวจ กอ.รมน.พะเยา ปกครองจังหวัดพะเยา ที่ได้มีความเป็นห่วงว่าผมหรือคนเสื้อแดงจะเดินทางเข้าไปกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมแสดงพลังเชียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 นี้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลว่าเกรงจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น จึงเตือนหลีกเลี่ยงหรืองดร่วมให้กำลังใจดังกล่าว เพราะการเดินทางอาจจะไม่สะดวก หรืออาจจะเป็นเป้าทางการเมืองด้วย ซึ่งผมขอบคุณทุกหน่วยงานที่ห่วงใย สำหรับตัวผมเองไม่ได้เข้ากรุงเทพมหานครดังที่ให้เหตุผลไว้แล้ว ส่วนเสื้อแดงคนอื่นๆ ผมไม่ทราบว่าใครเดินทางอย่างไรบ้าง แต่ที่รู้คือ ต่างคนต่างไป และจะเริ่มเดินทางวันนี้( 23 ส.ค. 60) เท่านั้นเอง” นายศิริวัฒน์ กล่าว

รายงานระบุด้วยว่า ศิริวัฒน์ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวจากที่บ้านในช่วงเช้า ขณะที่นายศิริวัฒน์ กำลังจะเข้าไปซ่อมข้าวในนา เมื่อให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา เรียบร้อยก็กลับเข้าไปซ่อมข้าวในนาต่อ

ตร.คัดกรองรถผ่านแจ้งวัฒนะ แนะทางเลี่ยงบริเวณศาลฎีกาฯ วันตัดสิน

วันเดียวกัน (23 ส.ค.ุจ) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) ออกประกาศประชาสัมพันธ์ว่าเนื่องจาก วันที่ 25 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ที่ ยิ่งลักษณ์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจ และทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะมีการตรวจค้นคัดกรอง รถที่ผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้การจราจรชะลอตัวและเกิดการสะสมของปริมาณรถบ้าง จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยง ถนน แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าศูนย์ราชการ

1. เส้นทางเลี่ยง พื้นราบ

1.1 ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณ แยกหลักสี่ ทางแรก จากถนนวิภาวดี – เลี้ยวซ้ายแยกหลักสี่ ถนนกำแพงเพชร 6 – แยกบางเขน – เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนงามวงศ์วานขาออก อีกเส้นทาง จากถนนวิภาวดี – เลี้ยวขวาแยกหลักสี่ – ถนนกำแพงเพชร 6 ถนนสงประภา
1.2 ถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า ทางแรก จากฝั่งอำเภอปากเกร็ดให้กลับรถใต้สะพานข้ามแยกคลองประปา – เลี้ยวซ้ายถนนประชาชื่น – เลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงศ์วาน – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกเส้นทาง จากฝั่งอำเภอปาเกร็ดให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาชื่น – แยกศรีสมาน – เลี้ยวขวาไปสรงประภา ให้กลับรถใต้สะพานข้ามแยกคลองประปา

2. เส้นทางเลี่ยง ทางด่วน
ทางแรก ทางด่วนศรีรัช หรือ ทางด่วนขั้นที่ 2 แนะนำให้ใช้ทางลงด้านถนนงามวงศ์วานและ สรงประภาจะได้รับความสะดวกมากกว่า หรือ ทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ แนะนำให้ใช้ทางลงงามวงศ์วาน,ดอนเมือง, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งอุบัติเหตุจราจร และข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร(บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่น POLICE I LERT U และ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชาสัมพันธ์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.