Posted: 16 Nov 2017 07:42 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
17 พ.ย. 2560 ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่ม LGBTQ ระดับรากหญ้าในสหรัฐฯ ที่ชื่อ "No Justice, No Pride"* ประท้วงกรณีที่ฮิวแมนไรท์แคมเปญ (HRC) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิ LGBTQ ที่ก่อตั้งมายาวนานในสหรัฐฯ จัดงานดินเนอร์ระดมทุนในเรื่องการคุ้มครองผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่ในงานดังกล่าวกลับมีการเชิญเวลส์ ฟาร์โก บริษัทด้านการเงินและการธนาคารเข้าร่วมด้วย ทำให้ No Justice, No Pride ไม่พอใจ เนื่องจากถึงแม้ว่าเวลส์ ฟาร์โก จะมีภาพลักษณ์ภายนอกแสดงออกว่าสนับสนุน LGBTQ แต่นโยบายและการกระทำของบริษัทนี้ก็กดขี่คนชายขอบ ซึ่งรวมถึงผู้ที่อยู่ชายขอบในขบวนการ LGBTQ เองด้วย
No Justice, No Pride ระบุถึงจุดยืนของกลุ่มว่า ต้องการเสริมพลังให้กับกลุ่มคนที่พวกเขามองว่าถูกกีดกันให้เป็นชายขอบภายในขบวนการ LGBTQ กระแสหลักที่มักจะให้ความสำคัญกับคนที่มีเพศตรงกับเพศกำเนิด มีมุมมองแบบรักต่างเพศเป็นบรรทัดฐาน (heteronormative) และเน้นแต่คนขาว กลุ่ม LGBTQ ระดับรากหญ้ากลุ่มนี้ยังเคยสร้างปรากฏการณ์ให้ตัวเองด้วยจัดขบวนไปสกัดกั้นการเดินขบวนของงาน 'แคปปิตอล ไพรด์' เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยพวกเขาบอกว่างานแคปปิตอลไพรด์เป็นงานที่ถูกครอบงำโดยบรรษัทและถูกทำให้เป็นแค่ของคนขาว
ในงานเลี้ยงระดมทุนของ HRC มีคนดังๆ เข้าร่วมอย่างฮิลลารี คลินตัน ผู้แทนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งปี 2559 คามาลา แฮร์ริส วุฒิสมาชิกจากแคลิฟอร์เนีย และอูโซ อาบูดา ดาราหญิงคนดำจากซีรีส์ Orange is the New Black อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าชาว LGBTQ ทุกคนจะรู้สึกได้รับการต้อนรับในงานนี้ หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ No Justice, No Pride ไม่พอใจคือการที่ HRC ไปร่วมมือกับบริษัทการเงินที่กดขี่อย่างเวลส์ ฟาร์โก
ทำให้ในครั้งนี้ No Justice, No Pride ร่วมกับกลุ่มนักกิจกรรมขาวเควียร์ (ผู้ที่ไม่ยึดติดกับเพศสภาพชายหญิง) อีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ "ทรานส์วูแมนออฟคัลเลอร์คอลเลคทีฟ" (Trans Woman of Color Collective) ชุมนุมปิดทางเข้างานของ HRC ด้วยรถจักรยานยนต์และท่อพีวีซี รวมถึงประท้วงด้วยการแต่งกายเป็นซอมบีอิงกับใกล้กับช่วงเทศกาลฮัลโลวีนที่เพิ่งผ่านมาและเป็นการแสดงถึงความน่าสยดสยองจากการที่ HRC มีสายสัมพันธ์กับบริษัทเวลส์ ฟาร์โก
อย่างไรก็ตาม HRC ยืนยันว่าการร่วมมือกับบริษัทใหญ่ๆ ก็มีความสำคัญต่อการต่อสู้กับการออกกฎหมายกีดกันผู้มีความหลากหลายทางเพศ พวกเขาบอกว่ามีการอาศัยความร่วมมือจากบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้จนทำให้ต่อต้านการออกกฎหมายกีดกันคนข้ามเพศในรัฐเท็กซัสและนอร์ทแคโรไลนาได้ ในช่วงเวลาที่รัฐบางส่วนกลางพยายามบีบเค้นกดขี่ชาว LGBTQ อย่างชัดเจนตั้งแต่ในสถาบันกองทัพ ในสถานศึกษา หรือแม้กระทั่งในชีวิตประจำวันทุกวันแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องใช้ทุกวิถีทางในการที่ดำเนินกิจกรรมให้สำเร็จลุล่วงไปได้
สื่อ Vice สัมภาษณ์ เอมเมลเลีย ทาลาริโก ประธานขับเคลื่อนของ No Justice, No Pride ถึงเรื่องการประท้วง ทาลาริโกกล่าวว่าถึงแม้หลายคนจะมองพวกเขาอย่างเย็นชาและจองหองแต่ก็มีผู้เข้าร่วมงานของ HRC บางส่วนที่สนใจข้อวิจารณ์ของพวกเขาและมีคนทำงานให้ HRC บางส่วนที่รับฟังพวกเขาแม้ว่าจะยังไม่มีการพูดคุยตอบกลับในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
ทาลาริโกกล่าวอีกว่าการประท้วงของพวกเขามีการเตรียมการหลายสัปดาห์และได้รับการสนับสนุนจากชุมชน LGBTQ ในท้องถิ่น กลุ่มคนข้ามเพศและชาวเควียร์โดยเฉพาะที่ไม่ใช่คนขาวรู้สึกไม่พอใจกับการที่ HRC ปฏิสัมพันธ์กับบรรษัทที่กดขี่ผู้คน และผู้คนก็รู้สึกตื่นเต้นที่มีชาว LGBTQ ปฏิบัติการบางอย่างกับ HRC
ทาลาริโกมองว่าการที่ HRC มีสายสัมพันธ์กับเวลส์ ฟาร์โก ส่งสารให้คนที่ได้รับผลกระทบทางลบจากบริษัทการเงินนี้ได้เห็นว่า HRC ไม่ได้มองพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ HRC ต้องการจะเป็นตัวแทน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนข้ามชาติที่ไม่ได้มีเอกสารรับรองจากรัฐบาล ชาวเปอร์โตริโก และใครก็ตามที่ถูกกดขี่จากนโยบายและการหลอกลวงของเวลส์ฟาร์โก ทาลาริโกบอกอีกว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยคนข้ามเพศและเควียร์ออกจากการต่อสู้กับความอยุติธรรมในระดับกว้างๆ"
นอกจากนี้สมาชิกของกลุ่มคนข้ามเพศและชาวเควียร์ยังบอกว่าการ "ทำให้มีส่วนร่วม" ในแบบของ HRC นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสนใจ แต่พวกเขาสนใจมากกว่าถ้าหาก HRC จะสร้างพื้นที่ให้กับผู้นำที่มาจากชุมชนของคนชายขอบเพื่อให้พวกเขาได้ไล่ตามเป้าหมายและวาระของตัวเอง
HRC เคยถูกวิจารณ์ว่่ามีบรรยากาศในที่ทำงานที่ไม่เปิดกว้าง ชอบตัดสิน และไม่ทำให้มีส่วนร่วมมากพอและมีวัฒนธรรมการนำที่ "เน้นแต่เกย์ชายคนขาว" เหล่าคนข้ามเพศเคยวิจารณ์ HRC ในเรื่องกฎหมายการห้ามเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน (ENDA) ว่ามีแต่การคุ้มครองทางเพศวิถี (เช่น เกย์ เลสเบียน ไบ) แต่ไม่ได้คุ้มครองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพและการแสดงออกทางเพศสภาพ (เช่น คนข้ามเพศ ผู้ไม่นิยามตัวเองในระบบสองเพศ) ไปด้วย
ทาง No Justice, No Pride ให้สัมภาษณ์อีกว่าจากที่พวกเขาถูกกีดกันเป็นชายขอบมานาน พวกเขาก็อยากให้พื้นที่ของขบวนการเป็นพื้นที่สำหรับคนข้ามเพศและชาวเควียร์ยุคใหม่ที่เปิดกว้างมากขึ้นและมีเป้าหมายในการปลดแอกทางเพศสภาพไปไกลมากกว่าเดิม พวกเขาไม่เพียงแค่วิจารณ์หรือต่อต้าน แต่ยังเคลื่อนไหวให้มีรัฐบาลท้องถิ่นทำตามสัญญากับคนข้ามเพศและออกนโยบายในเชิงต่อต้านการเหยียดการเลือกปฏิบัติ อีกทั้งยังร่วมกับกลุ่มส่งเสริมชีวิตคนทำงานบริการทางเพศในวอชิงตันดีซีให้การขายบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอีกต่อไปในพื้นที่เขตวอชิงตัน
Vice ถามว่าถ้ามีคนมองว่าหากการเคลื่อนไหวต่อต้าน HRC ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ขัดขวางพวกเดียวกันเองพวกเขาจะตอบอย่างไร ทาลาริโกบอกว่าในบรรยากาศทางการเมืองแบบนี้มันสำคัญที่จะมีความชัดเจนว่าใครที่สนับสนุนพวกเขาจริงหรือใครที่ไม่ได้สนับสนุนพวกเขาที่เป็นคนชายขอบ มันไม่ใช่การ "กัดกันเอง" แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าขบวนการมีความผิดพลาดล้มเหลวตรงไหนบ้าง มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังบ้าง เพื่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้อย่างเข้มแข็งและไปไกลมากขึ้น
* ชื่อขบวนการ "No Justice, No Pride" แปลว่า "ถ้าไม่มีความยุติธรรมก็ไม่มีความทรนง" คำว่า Pride หรือความทรนงในที่นี้ยังเป็นคำสำคัญที่ชาว LGBTQ มักจะนำมาใช้ในการเคลื่อนไหวโดยทั่วไปด้วย
เรียบเรียงจาก
LGBTQ Activists Organize a ‘Zombie’ Protest Against HRC's Wells Fargo Ties, Vice Impact, 03-11-2017
https://impact.vice.com/en_us/article/8x55z4/lgbtq-activists-organize-a-zombie-protest-against-hrcs-wells-fargo-ties
No Justice, No Pride Is the Revolutionary Spirit of the Stonewall Riots, Vice Impact, 20-06-2017
https://impact.vice.com/en_us/article/59zaax/no-justice-no-pride-is-the-revolutionary-spirit-of-the-stonewall-riots
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Human_Rights_Campaign
แสดงความคิดเห็น