Posted: 02 Dec 2018 03:27 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sun, 2018-12-02 18:27
สถานการณ์สองสัปดาห์หลังการชุมนุม "เสื้อกั๊กเหลือง" ที่ประชาชนเรือนแสนออกมาประท้วงนโยบายขึ้นภาษีน้ำมันของรัฐบาลในหลายส่วนของประเทศ ผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วกว่า 160 ราย เสียชีวิต 2 แม้มีข้อเสนอจากทางประธานาธิบดีแล้ว แต่การเจรจายังไม่นำไปสู่ความคลี่คลาย ในขณะที่ความรุนแรงก็ยังดำเนินต่อไป
2 ธ.ค. 2561 เป็นเวลามากกว่าสองสัปดาห์แล้วที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะในฝรั่งเศสจำนวนหลักแสน สวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสงสีเหลืองออกมาประท้วงในกรุงปารีส และส่วนอื่นๆ ในประเทศฝรั่งเศสที่ปะทุจากกระแสการต่อต้านการขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล นโยบายที่มุ่งให้คนหันไปใช้รถที่ก่อมลพิษต่ำ จากนั้นประเด็นได้ขยายออกไปถึงเรื่องความคับแค้นต่อนโยบายของเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ถูกมองว่าไม่ได้ช่วยเหลือคนจน นำไปสู่การเรียกร้องของเหล่ากั๊กเหลืองให้มาครงลาออก
การชุมนุม "เสื้อกั๊กเหลือง" เริ่มเคลื่อนไหวเป็นรูปเป็นร่างตั้งแต่การประท้วงในวันที่ 17 พ.ย. ด้วยมวลชนจำนวนราว 282,000 คนทั่วประเทศ แม้ในวันเสาร์ (1 ธ.ค. 2561) ที่ผ่านมาจำนวนผู้ชุมนุมได้ลดลงเหลือ 106,000 แล้วก็ตาม แต่ความรุนแรงและความเสียหายจากการชุมนุมและการรับมือกับผู้ชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐก็สร้างความเสียหายไปแล้วเป็นวงกว้าง
กลุ่มควันดำที่โขมงอยู่ในท้องฟ้ากรุงปารีสคือสัญญาณของความรุนแรงที่ยกระดับขึ้น ที่ฌองซ์เซลิเซ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5,000 คนเข้าประจำการเพื่อรับมือกับผู้ชุมนุมซึ่งบางส่วนก็ชุมนุมโดยสันติ ในขณะที่บางส่วนก็เข้าปะทะกับตำรวจ ตัวเลขจากทางการระบุว่ามีผู้ชุมนุมถูกจับกุมแล้ว 160 คน มีผู้บาดเจ็บแล้ว 65 คน บีบีซีรายงานว่า มีประชาชนมากกว่า 1 แสนคนร่วมประท้วงใน 1,600 จุดทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่เป็นการชุมนุมอย่างสงบ เว้นเสียแต่ในกรุงปารีสที่มีผู้ชุมนุมจำนวนราว 8,000 คนเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตา ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง โล่และกระบอง เมื่อ 17 พ.ย. มีประชาชนเสียชีวิตสองคน และได้รับบาดเจ็บ 600 คน
เมื่อวันอังคาร มาครงได้ตอบโต้การใช้ความรุนแรงจากฝั่งผู้ชุมนุมว่า เขาเข้าใจความโกรธเกรี้ยวต่อราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่เขาจะไม่เปลี่ยนนโยบายเพราะพวก "อันธพาล"
ผู้ชุมนุมบางคนก็แสดงความไม่พอใจกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากฝั่งผู้ชุมนุม โดยเชื่อว่าเป็นผลมาจากการขาดการจัดการการชุมนุมที่ดี แดน โลดี ผู้ชุมนุมที่ฌองซ์เซลิเซ่ อายุ 68 ปี กล่าวกับ NDTV ว่า "พวกเราเคลื่อนไหวอย่างสันติ แต่พวกเราไม่มีการจัดตั้งที่ดี มันวุ่นวายเพราะว่าพวกเราไม่มีผู้นำ" เขายังกล่าวด้วยว่า "คุณจะมีคนโง่ที่เข้ามาเพื่อจะต่อสู้เสมอ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหมด"
การประท้วงเริ่มจากกระแสในโซเชียลมีเดียเมื่อเดือน ต.ค. ก่อนจะขยายผลเป็นการชุมนุมจริงๆ ในเวลาต่อมา สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือมีผู้ประท้วงจำนวนมากเป็นคนในวัยเกษียณ โดยเฉพาะในเมืองขนาดเล็กและพื้นที่ชนบท โดยผู้ชุมนุมได้ปิดถนน ทางขึ้นทางด่วน ไปจนถึงปิดทางเข้า-ออกสำนักงานสรรพากร
รัฐบาลฝรั่งเศสล้มเหลวในการเจรจากับกลุ่มประท้วงรากหญ้านี้ เนื่องจากผู้แทนฝ่ายชุมนุมอยากให้ถ่ายทอดสดการเจรจาออกทางโทรทัศน์ เจสัน เฮอร์เบิร์ต กล่าวหลังเข้าไปคุยกับนายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟีลิป ว่า "พวกเราต้องการศักดิ์ศรีของเราคืนมา และเราอยากจะใช้ชีวิตจากงานที่เราทำได้ ซึ่งในวันนี้มันไม่เป็นแบบนั้น"
ทางมาครงพยายามลดอุณหภูมิความโกรธของผู้ชุมนุมด้วยการเสนอให้มีการพูดคุยทั่วประเทศ เพื่อหาวิธีสร้างระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในแบบที่ไม่เป็นโทษกับคนจน และยังสัญญาว่าจะชะลอการขึ้นภาษีน้ำมันหากราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
บีบีซียังรายงานอีกว่า ราคาน้ำมันดีเซลในฝรั่งเศสปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา มีราคาเฉลี่ย 1.51 ยูโรต่อลิตร หรือราว 56.65 บาท ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 นโยบายขึ้นภาษีน้ำมันรอบนี้ขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล 6.5 เซนต์ต่อลิตร และน้ำมันเบนซินอีก 2.9 เซนต์ต่อลิตร จะมีผลใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 ซึ่งการขึ้นภาษีรอบนี้นำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ที่เกิดขึ้น
ตามกฎหมาย ผู้ใช้ยานพาหนะในฝรั่งเศสทุกคนต้องพกเสื้อกั๊กสีเหลืองไว้ในรถของตนในฐานะหนึ่งในอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ต้องสวมเมื่อลงมาซ่อมรถหากรถเสีย นอกจากนี้ยังจะต้องมีกรวยสีแดงที่วางไว้หลังรถด้วย เพื่อให้เป็นที่มองเห็น หากไม่ใส่เสื้อกั๊กหลังรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ อาจเสียค่าปรับเป็นเงิน 135 ยูโร (ประมาณ 5,064 บาท) ตามกฎหมายที่บังคับใช้เมื่อปี 2551
แปลและเรียบเรียงจาก
"We Want Dignity": 75,000 Protest Against Emmanuel Macron in France, NDTV, Dec. 2, 2018
French police clash with 'yellow vest' protesters in Paris, 122 arrested, Channel News Asia, Dec. 1, 2018
แสดงความคิดเห็น