Posted: 30 Nov 2018 12:43 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-12-01 03:43
ศาลฟิลิปปินส์สั่งตั้งข้อหาบริษัทสื่ออิสระ Rappler และประธาน-ผู้ก่อตั้ง มาเรีย เรสซา ผู้ซึ่งได้รับรางวัลเสรีภาพสื่อจากองค์กรระดับโลกเมื่อไม่นานมานี้ ศาลตั้งข้อหาความเขาจากข้อกล่าวหาของรัฐบาลในคดีเลี่ยงภาษีแต่ก็ถูกมองว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งสื่ออิสระเพราะขาดกระบวนการสืบสวนในเบื้องต้นตามหลักรัฐธรรมนูญ และมีการตีความผิดๆ ว่าบริษัทสื่อของพวกเขาเป็น 'ผู้ค้าหลักทรัพย์'
ศาลเกี่ยวกับภาษีของฟิลิปปินส์สั่งตั้งข้อหาต่อบริษัทแรปเลอร์ โฮลดิง คอร์ปอเรชัน และประธานบริษัท มาเรีย เรสซา ในเรื่องที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี จากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานร้องเรียนเรื่องรายได้แผ่นดิน (BIR) และกระทรวงยุติธรรมฟ้องร้องไว้และยังคงเดินหน้าต่อไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงแม้ว่าทางจำเลยจะขอให้มีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
แรปเลอร์และเรสซากล่าวผ่านทนายความว่าทางกระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์ไม่ยอมให้มีการสืบสวนในเบื้องต้นต่อคดีนี้ถึงแม้ว่าคู่มือของกระทรวงยุติธรรมจะระบุให้พวกเขามีสิทธิในการให้มีการสืบสวนเบื้องต้นก่อนได้ ทนายความของพวกเขากล่าวอีกว่ามันจึงไม่มีเหตุผลที่จะมีการรีบสั่งตั้งข้อหาแบบนี้ยกเว้นแต่พวกเขาจะต้องการกลั่นแกล้งแรปเลอร์
เรสซากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คดีนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่พยายามอย่างเอาเป็นเอาตายในการจะกลั่นแกล้งและปิดปากสื่ออิสระอย่างแรปเลอร์ แต่เธอก็บอกว่าสื่อของเธอจะยังคงบอกเล่าเรื่องราวของประเทศฟิลิปปินส์ต่อไป คดีนี้จะไม่สามารถข่มขู่หรือเบี่ยงเบนพวกเขาออกไปจากวิถีทางตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทางการผ่านข่าวของพวกเขาได้
จากข้อหาทั้งหมดที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเรสซาและแรปเลอร์ส่งผลให้พวกเขาอาจจะต้องถูกสั่งปรับเป็นเงิน 204,000 เปโซฟิลิปปินส์ (ราว 128,000 บาท) หลังจากการตั้งข้อหาแล้วศาลจะตัดสินต่อไปว่าพวกเขาจะจับกุมตัวเรสซาหรือไม่โดยที่เรสซาสามารถยื่นประกันตัวได้
อย่างไรก็ตามฟรานซิส ลิม ผู้ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายต่อแรปเลอร์ก็วิจารณ์ในเรื่องที่กระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์ไม่ทำตามกระบวนการคือให้มีการไต่สวนเบื้องต้นก่อน ซึ่งถือเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ลิมบอกว่าศาลภาษีควรจะมีการระงับกระบวนการเอาไว้ชั่วคราว
ข้อกล่าวหาต่างๆ ต่อแรปเลอร์เริ่มต้นมาจากกลไกเรื่องตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (PDR) ซึ่งอนุญาตให้บริษัทฟิลิปปินส์มีการลงทุนจากต่างประเทศได้ ในกรณีของแรปเลอร์มีการให้ PDR ต่อโอมิดยาร์เน็ตเวิร์กซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์กล่าวอ้างว่ามันคือการให้ต่างชาติเป็นเจ้าของซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ที่ระบุให้บริษัทสื่อต้องมาเจ้าของเป็นชาวฟิลิปปินส์ร้อยละ 100
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ (SEC) อ้างเรื่อง PDR ต่อโอมิดยาร์มาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของแรปเลอร์ตั้งแต่เดือน ม.ค. แต่ศาลอุทธรณ์เพิกถอนคำสั่งนี้ และตีกลับคดีไปให้ SEC พิจารณา ทางแรปเลอร์ระบุว่าพวกเขาเป็ยบริษัทที่มีชาวฟิลิปปินส์ดำเนินการอย่างเต็มตัวและได้รับเงินทุนสนับสนุนในฐานะบริษัทของฟิลิปปินส์อย่างถูกกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม BIR กล่าวว่ากระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ควรจะคงคำตัดสินเดิมไว้เพราะแรปเลอร์ได้รายได้แบบที่สามารถเก็บภาษีได้ รวมถึงกล่าวหาว่าแรปเลอร์เลี่ยงภาษีจากกรณีรายได้จาก PDR นี้
เรื่องนี้ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของแรปเลอร์กล่าวว่าข้อกล่าวหาของ BIR เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลทางกฎหมาย เพราะข้ออ้างของ BIR นั้นเสมือนกล่าวหาว่าแรปเลอร์เป็น "ผู้ค้าหลักทรัพย์" ที่ได้กำไรจากการขาย ซึ่งแรปเลอร์ไม่ใช่องค์กรในรูปแบบดังกล่าว
ลิมกล่าวว่าการดำเนินคดีกับแรปเลอร์จะเป็นการส่งผลให้เกิดความกลัวต่อกลุ่มธุรกิจที่มีเงินทุนจาก PDR และความกลัวนี้จะทำให้เกิดผลเลวร้ายต่อการพัฒนาของฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังขาดแคลนตลาดทุนอยู่แล้ว
เรียบเรียงจาก
Maria Ressa, Rappler Holdings charged in court for alleged tax evasion, Rappler, 29-11-2018
https://www.rappler.com/nation/217776-doj-charges-maria-ressa-rappler-holdings-tax-cases-november-2018
แสดงความคิดเห็น