น้ำท่วมปารีสยังรุนแรง แม่น้ำแซนมีระดับน้ำสูงสุดในรอบ 34 ปี ชาวบ้านเกือบ 2 หมื่นไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั่วยุโรปคนตายเพราะน้ำท่วม 18 คน
ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำแซนในปารีสพุ่งขึ้นแตะ 6.1 เมตรซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีเมื่อวานนี้ ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่และทำให้ทางการต้องสั่งปิดสถานีรถไฟใต้ดินและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง แม้ว่าล่าสุดระดับน้ำจะลดลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำแซนอาจพุ่งสูงถึง 6.5 เมตรได้ ขณะที่รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศสชี้ว่า ระดับน้ำในช่วงสุดสัปดาห์นี้คงจะทรงตัวก่อนที่จะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ
สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นทำให้ล่าสุดทางการได้สั่งปิดสถานีรถไฟใต้ดิน Cluny - La Sorbonne และ St Michel เพื่อป้องกันความปลอดภัยเนื่องจากน้ำในแม่น้ำแซนเอ่อล้นเข้าท่วมถนนหลายสายในกรุงปารีส ขณะเดียวกันพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพิพิธภัณฑ์ออร์แซต่างก็ปิดให้บริการชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้ขนย้ายงานศิลปะกว่า 250,000 ชิ้น ออกจากห้องใต้ดินขึ้นสู่ที่สูง
นอกจากนี้ ยังมีการปิดสะพานหลายแห่ง และห้ามเรือที่ไม่ใช่เรือหน่วยฉุกเฉินแล่นในแม่น้ำแซน พร้อมทั้งปิดสวนสาธารณะและสุสานหลายแห่ง สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ทางการฝรั่งเศสได้นำตัวประธานาธิบดีและรัฐมนตรีที่สำคัญไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ทางการฝรั่งเศสระบุว่า มีคนตายไป 4 และบาดเจ็บอีก 42 คนทั่วประเทศ มีบ้านเรือนในและรอบๆเมืองหลวงไม่มีไฟฟ้าใช้ 17,000 หลัง
ด้านสมาคมธุรกิจประกันภัย AFA คาดว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะสร้างความเสียหายให้บริษัทประกันภัยของฝรั่งเศสกว่า 600 ล้านยูโร (ราว 24,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปีนี้ยังรุนแรงน้อยกว่าเมื่อปี พ.ศ.2453 ซึ่งตอนนั้นระดับน้ำในแม่น้ำแซนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.62 เมตร ส่วนในปี พ.ศ.2498 อยู่ที่ 7.1 เมตร และในปี พ.ศ.2525 อยู่ที่ 6.18 เมตร
ทั้งนี้ ฝนที่ตกหนักในแถบยุโรปกลางทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 18 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายประเทศ ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน โดยนอกจากจะมีผู้เสียชีวิต 2 รายในฝรั่งเศสแล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตทางภาคใต้ของเยอรมนีอีก 11 คน ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุฟ้าผ่าในงานเทศกาลดนตรีร็อคในภาคตะวันตกของเยอรมนี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 51 คน ขณะเดียวกันก็มีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในโรมาเนีย และเบลเยียม ส่วนออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ก็ได้รับผลกระทบด้วย


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.