หญิงปากีสถานถูกเผาทั้งเป็นหลังปฏิเสธคำขอแต่งงาน
น.ส.มาเรีย ซาดากัต ครูประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองมูร์รี จังหวัดปัญจาบของปากีสถาน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงอิสลามาบัด เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. หลังถูกกลุ่มคนร้ายเพศชายทำร้ายและจุดไฟเผาทั้งเป็นในวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยบิดาของ น.ส.ซาดากัต เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.ซาดากัตปฏิเสธคำขอแต่งงานจากลูกชายเจ้าของโรงเรียนที่เธอสอนอยู่ ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจและเป็นหนึ่งในกลุ่มก่อเหตุทำร้าย น.ส.ซาดากัตด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานระบุว่ากลุ่มก่อเหตุทุบตี น.ส.ซาดากัต จากนั้นจึงราดน้ำมันและจุดไฟเผา ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสจากแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุเกิดขึ้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมืองมูร์รี ไม่ไกลจากกรุงอิสลามาบัด และนายชาห์บาซ ชารีฟ มุขมนตรีแห่งปัญจาบ สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ฆาตกรรมดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยระบุว่าจะเปิดเผยผลสอบสวนภายในเวลา 2 วัน
น.ส.มาเรีย ซาดากัต ครูประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองมูร์รี จังหวัดปัญจาบของปากีสถาน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงอิสลามาบัด เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. หลังถูกกลุ่มคนร้ายเพศชายทำร้ายและจุดไฟเผาทั้งเป็นในวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยบิดาของ น.ส.ซาดากัต เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.ซาดากัตปฏิเสธคำขอแต่งงานจากลูกชายเจ้าของโรงเรียนที่เธอสอนอยู่ ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจและเป็นหนึ่งในกลุ่มก่อเหตุทำร้าย น.ส.ซาดากัตด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานระบุว่ากลุ่มก่อเหตุทุบตี น.ส.ซาดากัต จากนั้นจึงราดน้ำมันและจุดไฟเผา ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสจากแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุเกิดขึ้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมืองมูร์รี ไม่ไกลจากกรุงอิสลามาบัด และนายชาห์บาซ ชารีฟ มุขมนตรีแห่งปัญจาบ สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ฆาตกรรมดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยระบุว่าจะเปิดเผยผลสอบสวนภายในเวลา 2 วัน
ขณะที่นางอาซียะ ไม่ระบุนามสกุล ผู้เป็นญาติของ น.ส.ซาดากัต บอกกับบีบีซีว่าลูกชายเจ้าของโรงเรียนมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว แต่กลับขอ น.ส.ซาดากัต แต่งงานเมื่อราว 6 เดือนก่อน เพราะต้องการให้เธอไปช่วยดูแลกิจการโรงเรียน เมื่อชายคนดังกล่าวถูกปฏิเสธจึงได้พาพรรคพวกมาทำร้าย น.ส.ซาดากัต
รายงานข่าวระบุด้วยว่าบิดาของ น.ส.ซาดากัต ถูกกดดันจากเพื่อนบ้านและผู้นำชุมชนไม่ให้เอาผิดกับกลุ่มก่อเหตุ โดยอ้างว่าจะยิ่งทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งในปากีสถานยังคงยึดมั่นเรื่องการฆ่าเพื่อปกป้องเกียรติยศ โดยเชื่อกันว่าเป็นบทลงโทษผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายเสื่อมเสียเกียรติ
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” เปิดเผยว่าในปี 2558 มีผู้หญิงปากีสถานราว 1,100 คนเสียชีวิตจากสิ่งที่เรียกว่าการฆ่าเพื่อเกียรติยศ โดยผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเครือญาติของผู้ถูกฆ่าเอง และบางส่วนเป็นเครือญาติของผู้ชายที่อ้างว่าได้รับการดูถูกหรือเสื่อมเสียเกียรติเพราะผู้หญิงคนดังกล่าว แต่กลุ่มผู้รณรงค์ต่อต้านการฆ่าเพื่อเกียรติยศระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกรายงานเป็นข่าว
นายนาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เคยกล่าวไว้เมื่อเดือน เม.ย.ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการฆ่าเพื่อเกียรติยศในปากีสถานตลอดปี 2558 เกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว, ความสัมพันธ์นอกสมรส และการตัดสินใจว่าจะแต่งหรือไม่แต่งงาน
(ภาพประกอบ: กลุ่มนักเคลื่อนไหวรวมตัวเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค.ที่ผ่านมา)
รายงานข่าวระบุด้วยว่าบิดาของ น.ส.ซาดากัต ถูกกดดันจากเพื่อนบ้านและผู้นำชุมชนไม่ให้เอาผิดกับกลุ่มก่อเหตุ โดยอ้างว่าจะยิ่งทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งในปากีสถานยังคงยึดมั่นเรื่องการฆ่าเพื่อปกป้องเกียรติยศ โดยเชื่อกันว่าเป็นบทลงโทษผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายเสื่อมเสียเกียรติ
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” เปิดเผยว่าในปี 2558 มีผู้หญิงปากีสถานราว 1,100 คนเสียชีวิตจากสิ่งที่เรียกว่าการฆ่าเพื่อเกียรติยศ โดยผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเครือญาติของผู้ถูกฆ่าเอง และบางส่วนเป็นเครือญาติของผู้ชายที่อ้างว่าได้รับการดูถูกหรือเสื่อมเสียเกียรติเพราะผู้หญิงคนดังกล่าว แต่กลุ่มผู้รณรงค์ต่อต้านการฆ่าเพื่อเกียรติยศระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกรายงานเป็นข่าว
นายนาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เคยกล่าวไว้เมื่อเดือน เม.ย.ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการฆ่าเพื่อเกียรติยศในปากีสถานตลอดปี 2558 เกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว, ความสัมพันธ์นอกสมรส และการตัดสินใจว่าจะแต่งหรือไม่แต่งงาน
(ภาพประกอบ: กลุ่มนักเคลื่อนไหวรวมตัวเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค.ที่ผ่านมา)
แสดงความคิดเห็น